ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า รณรงค์ พูลพิพัฒน์ ระบุ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายน 2565 เท่ากับ 107.58 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.9% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการของภาครัฐที่พยายามช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการภาคเอกชนได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการตรึงราคาขายปลีกเพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนนี้อยู่ที่ 7.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยหลักราคาพลังงงานทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม ซึ่งมีสัดส่วนถึง 61.83%
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2565 คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อทั่วไปของไทย จะเคลื่อนไหวในกรอบ 4-5% ค่ากลางอยู่ที่ 4.5%
สำหรับสินค้าสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 7.66% ได้แก่ กลุ่มพลังงาน มีอัตราการเติบโตของราคา 39.97% จึงส่งผลให้พลังงานมีสัดส่วนถึง 61.83% ของอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้ สินค้ากลุ่มพลังงานประกอบด้วย น้ำมันเชื้อเพลิง มีอัตราการเติบโตของราคา 39.45% ค่าไฟฟ้า 45.41% และราคาก๊ซหุงต้ม 12.63%
กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีอัตราการเติบโตของราคา 6.42% จึงส่งผลให้กลุ่มอาหารมีสัดส่วน 34.27% ของอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้ อาทิ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ และเครื่องประกอบอาหาร สาเหตุที่กลุ่มอาหารมีราคาเปลี่ยนแปลงเนื่องจากพลังงานเป็นต้นทุนแฝงในกระบวนการผลิตสินค้าอาหารทุกขั้นตอน ตลอดจนเป็นต้นทุนโลจิสติกส์ และราคาวัตถุดิบทั้งหมด
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อไตรมาสที่ 3 ยังมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด