การประชุมสุดยอดของกลุ่มชาติมหาอำนาจทางอุตสาหกรรม 7 ประเทศ หรือ G7 เริ่มต้นขึ้นแล้วที่โรงแรม "ชลอส เอลมาว" (Schloss Elmau) บริเวณเทือกเขาบาวาเรีย โดยโรงแรมแห่งนี้ได้รับการแบบมาเพื่อรองรับการจัดงานสำคัญและทรงเกียรติ และในปีนี้ผู้นำทั้ง 7 ได้แก่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (สหรัฐฯ), ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง (ฝรั่งเศส) นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน (อังกฤษ) นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี (อิตาลี)นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด (แคนาดา) นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ (ญี่ปุ่น) เจ้าภาพคือรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ (เยอรมนี) พร้อมกับแขกพิเศษได้แก่ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ซึ่งจะร่วมหารือประเด็นสำคัญ ๆ ระหว่างวันที่ 26 ถึง 28 มิถุนายน
แม้ในทุก ๆ ปี ผู้นำเหล่านี้จะหารือกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง, เศรษฐกิจ และสภาพอากาศทั่วโลก แต่ปีนี้ มี 2 ประเด็น ที่เข้ามามีอิทธิพลบดบังวาระการประชุมก็คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน กับการขยายอิทธิพลของจีน
บีบรัสเซียด้วยคำสั่งห้ามนำเข้าทองคำ
รัสเซียกำลังจะถูกลงดาบล่าสุด หลังมติในที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าจะออกคำสั่งห้ามนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียเลิกทำสงครามในยูเครน โดยจะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม เพราะทองคำเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของรัสเซีย เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 รองจากพลังงาน เมื่อปี 2564 รัสเซียมีรายได้จากการส่งออกทองคำ 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ การห้ามนำเข้าทองคำจะทำลายความสามารถในการทำธุรกรรม ในระบบการเงินโลกของรัสเซีย แต่คำสั่งห้ามจะมีผลกับทองคำที่ขุดใหม่หรือสกัดใหม่ ไม่มีผลต่อทองคำที่ส่งออกมาจากรัสเซียก่อนหน้านี้
แย่งอิทธิพลจีนด้วยการโค่นหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ส่วนจีน ผู้นำ G7 มีแผนที่จะยับยั้งการขยายอิทธิพลของจีน ที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการเข้าไปสร้างสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในประเทศกำลังพัฒนา ตั้งแต่ ถนนหนทาง ตลอดจนสะพานและสนามบิน ภายใต้ยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road initiative) ที่จีนหวังเข้าไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างจีนกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและยุโรป
แต่ทั้ง 7 ชาติ เตรียมสกัดด้วยการทุ่มงบ 600,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมาจากโครงการริเริ่มของไบเดน 200,000 ล้านดอลลาร์ ที่รวมทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในแองโกลา สร้างโรงงานผลิตวัคซีนในเซเนกัล, สร้างสายเคเบิลโทรคมนาคมสื่อสารใต้ทะเล ที่จะเชื่อมดินแดนตะวันออกไกล (Far East) กับฝรั่งเศสผ่านอิยิปต์, สร้างโรงงานนิวเคลียร์รูปแบบใหม่ให้แก่โรมาเนีย ที่เล็กกว่าและราคาถูกกว่าแบบเดิม โดยยืนยันว่าประเทศเหล่านี้ได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าโครงการของจีน ที่พ่วงภาระหนี้