ภายหลังเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ใกล้เคียงตลาดสำเพ็ง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำทำการดับเพลิง กว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ โดยสาเหตุจากหม้อแปลงระเบิดจนลุกลามไป 4 คูหา เมื่อตรวจสอบภายในตัวอาคารพบผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณชั้น 1 นั้น
ล่าสุดเวลา 14.34 น. หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในตัวอาคารพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ยังไม่ทราบเพศ บริเวณชั้นที่ 2 ของตัวอาคาร หลังจากนี้ทางตำรวจต้องทำการสอบสวน พร้อมประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตลอดจนทำการพิสูจน์อัตรลักษณ์บุคคล เพื่อหาว่าผู้ตาย ทั้ง 2 รายเป็นใครต่อไป
อย่างไรก็ตามเหตุการรืดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. พ.ต.ท.พลวรรษ พรหมศร สว.(สอบสวน) สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสำหรับควันไฟ ภายในบริษัท ราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด เลขที่ 157 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. จึงประสานรถดับเพลิงของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย 20 คันรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.จักรเพชร พลอยเพชรนิล รอง ผบก.น.6 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นรวมดาดฟ้า ประกอบกิจการขายกระเป๋าผ้า ถุงพลาสติก ถุงกระดาษ กล่องใส่สินค้าสำเร็จรูป ตั้งอยู่ริมถนนใจกลางย่านธุรกิจ ค้าส่งและค้าปลีกสำเพ็ง เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งจากหม้อแปลงไฟฟ้า ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าอาคาร ก่อนลุกลามเข้าสู่ภายในอาคารชั้นที่ 2 และชั้นล่าง ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้า ที่มีลักษณะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงโหมกระหน่ำ สร้างความเสียหายไปทั้งตึก จากนั้นยังกระจายวงกว้างออกไปสร้างความเสียหายต่ออาคารข้างเคียงอีก 3 คูหา อย่างรวดเร็ว โดยพบรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ด้านหน้าอาคาร ถูกเพลิงลุกไหม้ไปด้วย 2 คัน คือ รถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นอีคาร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ธท 4476 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษษ 1179 กรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันวางหัวฉีดน้ำ เข้าทำการสกัดกั้นไว้ทุกด้าน จำนวน 20 หัว รวมถึงมีการขอสนับสนุนรถกระเช้า จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร มาช่วยระดมฉีด อีก 1 คัน ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบมีชาวบ้านและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่นำหัวฉีดน้ำดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ เกิดสำลักควันไฟได้รับบาดเจ็บรวม 9 ราย ถูกแยกย้ายนำตัวส่ง รพ.กลาง และ รพ.หัวเฉียวไปก่อนหน้านี้
สอบสวน น.ส.จิตรา อัฐใจ อายุ 34 ปี ลูกจ้างร้านขายถุงพลาสติก ซึ่งหนีตาย ออกจากอาคารได้อย่างหวุดหวิดให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า มาตรวจสอบและซ่อมแซม สายไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งพาดขนานไปกับตัวอาคารบริเวณชั้น 2 ของร้านค้าในละแวกเดียวกันนี้ กระทั่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเดินทางกลับไป ตนและผู้ค้า อีกหลายคนสังเกตเห็นว่า บริเวณสายไฟที่หน้าร้านตน เกิดเสียงดังคล้ายไฟช็อตกัน ทีแรกยังวิจารณ์กันอยู่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่พันเก็บสายไฟให้เรียบร้อย หลังจากทำงานเสร็จหรือไม่ สักพักก็มีของเหลวไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้าน ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้ตนต้องรีบวิ่งข้ามถนนหนีตายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นแสงเพลิงก็ลุกลามจากหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ยังไม่ชัดชะตากรรมเพื่อนร่วมงานตนอีก 2 คน เป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คนซึ่งกำลังทำงานอยู่ในตึก
ต่อมาพนักงานสอบสวน ได้รับการยืนยันพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ติดอยู่ที่ชั้นวางสินค้า ด้านล่างของอาคารดังกล่าว 1 ราย ส่วนอีก 1 ราย พบศพอยู่ที่อาคารด้านบน เบื้องต้นยังไม่ สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ ทราบเพียงว่าลูกจ้างเพศชายที่สูญหายชื่อนายเพชรเดือน (ยังไม่ทราบนามสกุล) อายุ 34 ปี ส่วนลูกจ้างเพศหญิงชื่อน.ส.จิรภัทร สุ่มมาก อายุ 52 ปี จึงกันพื้นที่ในรัศมี 150 เมตรไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากเกรงว่าอาคารจะทรุดตัว และต้องรอให้อาคารดังกล่าวคลายความร้อนลงเสียก่อน จึงจะพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบด้านใน อย่างระมัดระวังอีกครั้ง.