จับตาซักฟอก! "เพื่อไทย"โวมีข้อมูลเด็ด ล้มรัฐบาลกลางสภาฯ

28 เมษายน 2565 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อโดรนอากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV จำนวน 3 ลำ ของกองทัพเรือมูลค่า 4,100 ล้านบาท โดยนายยุทธพงศ์ ยังคงย้ำถึงข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงต้องเป็น UAV แบบ Hermes 900 ของประเทศอิสราเอล ทั้งที่มีผู้เสนอถึง 5 ราย อีกทั้งยังได้ยกตัวอย่างภาพข่าวที่เคยพบว่าโดรนอากาศยานของบริษัทดังกล่าวมีปัญหาเครื่องตก ชี้ชัดว่าไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เป็นที่ยอมรับในการใช้งานของกองทัพที่เป็นสากล อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าต้องการซื้อจำนวน 3 ลำ ไปไว้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ สงขลา และภูเก็ต แต่ในเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างพบมีหอบังคับการบินเพียงแค่ 2 ที่ ตนจึงสงสัยแล้วจะใช้การได้อย่างไร

 

นายยุทธพงศ์ ยังได้เปิดภาพแสดงหลักฐาน 5 บริษัทที่เสนอขาย UAV มีทั้งจากสัญชาติจีน สัญชาติตุรกี สัญชาติอิสราเอล 2 บริษัท และบริษัทจากสหรัฐอเมริกา ก่อนจะพูดถึงบริษัทจันทร์เกษม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่เป็นตัวแทนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อโดรนชนิดดังกล่าวว่าเป็นบริษัทเดียวกันกับที่จัดหายุทโธปกรณ์จากประเทศจีน รวมถึงเรือดำน้ำ และยังเคยเป็นตัวแทนขายยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกหรือรถถังจีนรุ่น VT4 ให้กองทัพบกอีกด้วย ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ขายล้อแม็กซ์รถยนต์ ดังนั้นตนจึงมองว่าการจัดซื้อครั้งนี้ไม่โปร่งใส 

พร้อมกันนี้นายยุทธพงศ์ ยังได้ตอบโต้โฆษกกองทัพเรือ พลเรือโทปกครอง มนธาตุผลิน ออกมาชี้แจงว่าไม่พบว่าบริษัทที่มายื่นข้อเสนอการจัดหา UAV มีความเกี่ยวพันกับบริษัทเรือดำน้ำ และกองทัพเรือดำเนินการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด มีใช้งานจริงในกองทัพของหลายประเทศ มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการใช้งานสูง รวมถึงกรณีท่าจอดเรือดำน้ำ ซึ่งไม่เป็นความจริง ก่อนจะท้าพลเรือโทปกครองมาออกทีวีกับตนตัวๆเพื่อพิสูจน์ความจริง

 

ส่วนความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายยุทธพงศ์ บอกตนและพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้านมีความพร้อมมาก ก่อนจะย้ำว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีใครเอาแล้ว ไปถามใครก็มีแต่คนสาปแช่ง บ้านเมืองวุ่นวาย ทุกอย่างพัง อีกทั้งยังพบมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากกับโรคโควิด-19 ที่สะท้อนว่ารัฐบาลบริหารล้มเหลว นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวถึงพรรคเล็กร่วมรัฐบาล ว่าขอให้รอฟังคำอภิปรายของตนและฝ่านค้านให้ดี และเชื่อว่าหากได้ฟังแล้ว จะไม่กล้ายกมือโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลอย่างแน่นอน

ทั้งนี้รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังบอกว่าในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย) ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน EEC นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง  นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เพื่อสอบถามถึงข้อพิรุดเร่งรีบเซ็นสัญญาการทำท่อส่งน้ำประปาภาคตะวันออกที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.นี้ และขอให้เปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนโปร่งใส ก่อนจะตั้งตำถามว่ารีบเพราะใกล้เลือกตั้งแล้วหรือไม่