ปรอทวัดกระแสการเมืองไทยร้อนทุกวันไม่แพ้กระแส การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แม้สภาเกียกกายจะปิดสมัยประชุมไปแล้วก็ตาม
ล่าสุดอีกหนึ่งวาระการเมืองคือ การออกมาแสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการบนถนนการเมืองของ "ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า" ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทยนั้น ส่อความหมายบางอย่างที่ชัดเจนในชั้นต้น
" ...260เสียง ฝันไปหรือเปล่า ผมไม่ได้ว่าใครแต่เอาตัวเลขมาจากไหน ใครๆก็นับมือได้ แต่ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ในนั้นแน่นอน..."
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตอบคำถามสื่อต่อกระแสข่าวว่า รัฐบาลมีเสียงสนับสนุน 260 เสียงโดยไม่รวมกับเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย 1 มี.ค.65
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย
ประโยคข้างต้น ทำให้ต้องนำมาถอดรหัสยิ่งนักแม้วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงยืนยันเสียงแข็ง ร.อ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทย ยังคงสนับสนุนรัฐบาล?
หากพิจารณาในทางการเมือง ร.อ.ธรรมนัสต้องการสื่อไปถึงคนบนตึกไทยคู่ฟ้าถึงจุดยืนทางการเมืองของตัวเขาที่ไม่เปลี่ยนแปลง ตามเจตนารมย์ 4 ขั้น
ชั้นแรกคือ พรรคเศรษฐกิจไทย "ไม่ใช่ขั้วรัฐบาล"
ชั้นที่สองคือ ตัวเลข "ส.ส.สองร้อยหกสิบเสียง"ที่ลอยหึ่งตามหน้าสื่อหลายวันก่อน ซึ่ง "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอ้างว่ามีไว้ในมือเพื่อหนุน "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นั้น ตรงนี้ผู้กองคนดังบอกแล้วว่า "ฝันไปหรือเปล่า...."
สองชั้นหมากการเมืองที่ถอดความได้จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของร้อยเอกธรรมนัสนั้น พรายกระซิบการเมืองยังส่งข้อความลับมาไขความให้กระจ่างขึ้นอีกว่า
ชั้นที่สามคือ พรรคของผู้กองคนดังขอเป็นตัวแปรบนเวทีการเมืองในยามนี้และยามหน้า เพราะการแสดงความพร้อมส่งผู้สมัครส.ส.สี่ร้อยเขตและปาร์ตี้ลิสต์ในนามพรรคเศรษฐกิจไทยนั้น "ผู้กองคนดัง" แสดงความมั่นใจให้คนวงในทราบว่า "เลือกตั้งครั้งหน้าตัวเลขขั้นต่ำของพรรคเศรษฐกิจไทยคือ ยี่สิบส.ส.ในมือต้องบังเกิด" และตัวเลขนี้คือสมการทางการเมืองซึ่งว่าที่พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลต้องคำนึงและส่งเทียบเชิญให้ไปร่วมงานด้วย
ชั้นที่สี่ มีกระแสจากคนการเมืองหลายพรรคแจ้งมาว่า ช่วงที่ผ่านมาร้อยเอกธรรมนัสเปิดโต๊ะรับดีลจากคนการเมืองแทบทุกขั้ว(ส.ส./อดีตส.ส./นักการเมืองท้องถิ่น/นายทุน) โดยหวังจะเป็น "พรรคอันดับที่สามหรืออันดับที่สี่" และมีการพยากรณ์การเมืองจากร้อยเอกธรรมนัสให้คนการเมืองเหล่านี้ได้ยินว่า "ตั้งแต่เดือนพ.ค.ไปถึงเดือนส.ค.ปีนี้ ครม.เรือเหล็กจะเอวัง" ดังนั้นจึงมีการเริ่มลุยการเมืองแบบปูพรมสำหรับพรรคเศรษฐกิจไทย
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย
สี่ชั้นหมากการเมืองซึ่งผู้กองคนดังวางไว้นั้น หากสัญญาณการเมืองตามที่ร้อยเอกธรรมนัสส่งออกมาแบบนี้ แปลว่า "ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยในตอนนี้มีแววสูงที่จะไม่ลงคะแนนไว้วางใจให้พลเอกประยุทธ์ และอาจพ่วงกับร่างกฎหมายสำคัญๆบางฉบับที่มีผลต่อเสถียรภาพครม.เรือเหล็กไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง" รวมทั้งอาจร่วมมูลเหตุ "สภาล่ม" ในยามหน้าไปด้วยก็ได้
การแสดงตัวตนในตอนนี้ของร้อยเอกธรรมนัสนั้น หากมองไปลึกๆแล้ว เชื่อว่าแม้แต่ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็น่าจะยากในการต่อสายบัญชาการผู้กองคนดังให้ หันซ้ายหันขวาได้เหมือนแต่ปางก่อน
เพราะวันนี้"ร้อยเอกธรรมนัส"ไม่ได้สังกัดพรรคที่"ลุงป้อม"ดูแลแล้ว และหากว่า"ลุงป้อม"ลงไปแทรกแซงกิจการภายในของพรรคเศรษฐกิจไทยได้จริงนั้น สิ่งที่"ลุงป้อม"ดำเนินการจะขัดต่อตัวบทกฎหมายหรือไม่
สรุปง่ายๆ "กบฏล้มลุงตู่"เมื่อปีที่แล้ว เมื่อโดนปลดจาก รมต.และโดนขับออกจากพรรคพลังประชารัฐและย้ายมาขึ้นฝั่งใหม่นั้นวันนี้ผู้กองคนดัง "ยืนมุมตรงข้ามลุงตู่"แบบไม่ต้องแปลความ และหากมองไปในยามข้างหน้า
สมมติว่า"ลุงตู่"จำเป็นต้องอาศัยจำนวนส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทยมาหนุนเนื่อง"ลุงตู่"จำต้องกลืนเลือดยินยอมต่อเงื่อนไขซึ่ง"ร้อยเอกธรรมนัส"เคยยื่นไว้(หนึ่งรมว.กระทรวงเกรดเอ และหนึ่งรมช.) หาก"ร้อยเอกธรรมนัส" ไม่ได้ในสิ่งที่เคยต่อรองไว้ในช่วงสองเดือนข้างหน้านี้นั้น ไม่รู้ว่า ไม่กี่วันข้างหน้าก่อนเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในเดือนพ.ค.จะมีปรากฏการณ์อะไรที่สะเทือนเรือเหล็ก เพราะที่แน่ๆส.ส.ในปีกของร้อยเอกธรรมนัสน่าจะแสดงอิทธิฤทธิ์บางอย่างออกมาให้สังคมพบเห็น
การเมืองคือเรื่องที่ไม่แน่นอนสำหรับ "ลุงตู่ -ร้อยเอกธรรมนัส-ลุงป้อม" ในห้วงเวลาข้างหน้า เพราะกูรูการเมืองหลายคนมองว่าหากจะมีการปรับครม.รอบนี้"ลุงตู่" น่าจะปรับใหญ่และเปิดเวทีสำหรับทุกพรรคร่วมเรือเหล็กปรับครม.ไว้หาแต้มก่อนหมดวาระ
ฉะนั้นความไม่แน่นอนคือความแน่นอนทางการเมืองเช่นกันเพราะวันนั้นไม่รู้ว่า"ลุงตู่"จะยินยอมตามรันเวย์ที่ร้อยเอกธรรมนัสสร้างไว้หรือไม่ และหากไม่เออออห่อหมก สถานะของเรือเหล็กจะล่มหรือรอดปากอ่าวตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป