แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่นออนไลน์กรณีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” หลังรอผลชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า โดยปกติทั่วไปการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ศพจมน้ำจะตรวจหาสาเหตุมากกว่ารูปแบบอื่น โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ เสียชีวิตก่อนจมน้ำ และเสียชีวิตในน้ำ แพทย์ต้องทำการชันสูตรว่าเหตุใดผู้ตายไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้ เช่น เมา หรือ ได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น รวมถึงต้องระมัดระวังสิ่งแปลกปลอม เช่น โดนใบพัดเรือ หรือสิ่งใดกระแทก แต่อย่างไรก็ตามต้องหาหลักฐานอื่นประกอบด้วย เพื่อพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต
หากศพเจอบาดแผล แพทย์ต้องแยกให้ได้ก่อนว่าเกิดจากอะไร และเกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต ถึงจะมาประเมินว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ว่ายน้ำไม่ได้ แต่หากได้รับบาดเจ็บก่อนเสียชีวิตจะเกิดการอักเสบแน่นอน ซึ่งการตรวจค่อนข้างยากหากแผลใหญ่มาก ซึ่งหากมีการอักเสบแสดงว่าก่อนเสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ หากไม่มีการอักเสบเชื่อว่าเกิดภายหลังเสียชีวิตไปแล้ว
การตรวจแอลกอฮอล์ สามารถตรวจน้ำในลูกตา ส่วนสารเสพติดตรวจจากปัสสาวะหรือเส้นผม แต่สารอื่นๆ หากตรวจจากเลือดเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเลือดในศพมีการแข็งตัว
ส่วนการตรวจน้ำในกระเพาะปัสสาวะ ปกติหากปัสสาวะไปแล้วจะเหลืออยู่เล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าปัสสาวะไปแล้วหรือยัง ควรต้องนำมาประกอบกับพยานหลักฐานอื่นด้วย แต่หากตรวจเจอน้ำปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะ สามารถบอกชัดเจนว่ายังไม่ได้ปัสสาวะ ขณะที่การตรวจคราบปัสสาวะหากผ่านเวลาไป สามารถตรวจ DNA ได้ แต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นปัสสาวะ เนื่องจากไม่มีสารเฉพาะเหมือนเลือดหรือน้ำลาย
“หมอพรทิพย์” มองว่าคดีนี้มีช่องโหว่ทางคดี โดยเฉพาะบุคคลทั้ง 5 บนเรือ ตั้งคำถามเหตุใดต้องประวิงเวลา เจ้าหน้าที่ควรต้องมีการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทันที ไม่ควรทิ้งเวลาให้เนิ่นาน เนื่องจากพยานหลักฐานต่างๆ อาจถูกทำลาย พร้อมพูดทิ้งท้ายว่า
“เรื่องศพไม่น่าจะมีปัญหา แต่การสรุปคดีน่าจะมีปัญหา”