พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าที่สื่อนำเสนอผลชันสูตร นั้น ความจริง "ใบรับรองการตาย" เท่านั้น
โฆษกตร. อ้างอิงจากการสอบถาม พลตำรวจตรี นายแพทย์ บุณยรัสน์ พุกกะเวสสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ออกเอกสาร "ใบรับรองการตาย" เพื่อให้ญาตินำไปออกใบมรณบัตรกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเท่านั้น ไม่ใช่เอกสาร "ผลการผ่าชันสูตรศพ" แต่อย่างใด
เพราะฉะนั้น ที่สื่อเผยแพร่ไป นั้น คือ "ใบรับรองการตาย" โดยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ออกให้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.พ.65 ระบุถึง สาเหตุของการเสียชีวิต"เกิดจากการขาดอากาศหายใจหลังจากจมน้ำไปแล้ว ร่างกายไม่มีบาดแผลบอบช้ำจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด พบบาดแผลที่ต้นขาซ้ายด้านใน ความยาวประมาณ 1 ฟุต ลักษณะเหมือนถูกของมีคมบาด จนเป็นแผลเหวอะลึกเห็นกระดูก และเชื่อว่าถึงแม้จะว่ายน้ำเป็น แต่เมื่อผู้หญิงมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณขาเช่นนี้ก็คงว่ายน้ำช่วยตัวเองไม่ไหว เบื้องต้นยังไม่แน่ใจว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจาก “ใบพัด” เรือสปีดโบ๊ตลำเกิดเหตุหรือไม่ จึงยังต้องรอผลจากแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ตรวจสอบอีกครั้งว่าบาดแผลลักษณะดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง"
ส่วน "ผลการผ่าชันสูตรศพ" จะออกให้ได้เมื่อใด โฆษกตร. เผยว่า ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยอีก 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปตรวจในห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) ด้วยความละเอียดรอบคอบ
คำให้การ"เพื่อน"โยงบาดแผล"แตงโม"
ถึงกระนั้น สาเหตุที่ "แตงโม" เสียชีวิต คือพบบาดแผลที่ต้นขาซ้ายด้านใน ความยาวประมาณ 1 ฟุต ลักษณะเหมือนถูกของมีคมบาด จนเป็นแผลเหวอะลึกเห็นกระดูก จนไม่สามารถว่ายน้ำเอาชีวิตรอดได้ ประเด็นนี้ ตำรวจมุ่งไปที่คำให้การของเพื่อนแต่ละคนที่อยู่บนเรือในช่วงระหว่าง “แตงโม” พลัดตกเรือ
จากคำให้การของกลุ่มเพื่อนบนเรือ เผยว่า "แตงโม" นั่งปัสสาวะ บริเวณท้ายเรือโดยเกาะขา “แซน” ไว้ ประเด็นนี้หากจะให้ได้หลักฐานที่ชัดเจน ตำรวจอาจจำเป็นต้องจำลองเหตุการณ์ บริเวณจุดที่นั่งด้านท้ายเรือ เนื่องจากเป็น “จุดเกิดเหตุ” ของคดีเพราะเป็นชนวนเหตุทำให้ดาราสาวพลัดตกลงไปในแม่น้ำจากท้ายเรือ จนพบว่า เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เพื่อนบางคนต้องเข้าเครื่องจับเท็จ
ในด้านการหาหลักฐานจาก "พยานบุคคล" พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เปิดเผยว่า สอบปากคำแล้ว 8 ปาก ประกอบด้วย 5 คนที่อยู่บนเรืออีก 2 คน ที่เป็นเจ้าของอู่เรือ และผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 1 คน
โดยแนวทางการสืบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยวันนี้ (27 ก.พ.65) ได้เชิญตัว อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ "กระติก" ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ "แซน" มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานที่ใช้ในการสอบสวนในคดี โดยพยานจะให้ปากคำอย่างไรก็ได้
ส่วนพยานบุคคลคนไหนที่ฟังแล้วยังไม่มีน้ำหนักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ประสานกับกองพิสูจน์หลักฐาน เอาเข้าเครื่องจับเท็จในบางกรณีที่ตำรวจยังไม่แน่ใจในคำให้การของพยานบางคน ซึ่งทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้ด้วยพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
อีกหนึ่งประเด็นที่ตำรวจ ให้ความสำคัญ คือ การใช้โทรศัพท์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. เก็บรวบรวมข้อมูลโทรศัพท์ของแต่ละบุคคลไว้เป็นหลักฐานประกอบในสำนวนแล้ว เพื่อให้ทราบในประเด็นที่หลายคนสงสัยว่ามีการติดต่อ หรือมีค่าจ้างมา เพื่อรับงานเอ็นฯ หรือไม่
"ใบพัดเรือ"จะใช่ต้นตอบาดแผลที่ขา"แตงโม"?
การตรวจสอบเรือ สปีดโบ๊ต สีน้ำเงิน-ขาว แบบโบว์ไรเดอร์ ยี่ห้อโคบอลต์ รุ่น 25 SC สัญชาติอเมริกา โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสภาพตัวเรือขนาด 25 ฟุตทะเบียนเรือ 646700327 ขนาด 5.21 ตันกรอส ติดเครื่องยนต์เอาต์บอร์ด กำลังขับสูงสุด 300 แรงม้า (ใบอนุญาตหมดอายุวันที่ 27 ม.ค.65)
จากการตรวจสอบตัวเรือทั้งภายนอก และภายใน อย่างละเอียด พบว่า เรือมีห้องน้ำอยู่ฝั่งด้านซ้ายมือของคนขับ แต่ใช้งานไม่ได้
ส่วนบริเวณท้ายสุดของลำเรือ ด้านล่างจะมีจุดขึ้นลงเรือได้ทั้งฝั่งซ้าย-ขวา ตรงจุดนี้เจ้าหน้าที่ พฐ.จะสรุปโดยะเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับผลชันสูตรศพ "แตงโมนิดา" คาดว่าจะต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์
แจ้งข้อหาผู้ที่อยู่บนเรือแล้ว 2 ราย
สำหรับความความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 แถลงแนวทางการดำเนินคดี "แตงโม นิดา" พลัดตกเรือบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงโรงหล่อเย็นพระราม 7 ว่า แจ้งข้อหาผู้ที่อยู่บนเรือแล้ว 2 ราย พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำคำให้การของผู้อยู่ในเหตุการณ์กับพยานซึ่งขณะนี้ มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และมีบางคนต้องเข้าเครื่องจับเท็จ รวมถึงติดตามข้อมูลจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาประกอบในสำนวน
ทั้งนี้ ในส่วนของการ "เสียชีวิต" จะเสียชีวิตก่อนตกน้ำหรือตกน้ำแล้วถึงเสียชีวิต นั้นพล.ต.ท จิรพัฒน์ เผยว่า จะมีการนำผลการชันสูตรมารวมอยู่ในสำนวน ซึ่งการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ยืนยันตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และไม่มีการแทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ส่วนจะเป็นไปได้ไหมที่จะมีการดำเนินคดีและแจ้งข้อหาผู้อยู่ในเหตุการณ์มากกว่า 2 คน ก็ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน