svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม "เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ"

เปิดโปงเครือข่ายเบื้องหลัง “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” นายทุนใหญ่ข้ามชาติหลอกคนไทย พร้อมเผย “คู่มือ” ป้องกันตกเป็นเหยื่อ

จากการระบาดอย่างหนักของ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ในขณะนี้ ถึงขั้น “ผู้บัญชาการไซเบอร์” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังโดนโทรหา ต้องบอกว่าความร้ายแรงของปัญหาไม่ธรรมดา เข้าข่ายรุนแรงถึงขีดสุด

 

ปัจจุบันเครือข่ายใหญ่ของ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” มีนายทุนเป็นชาวจีน ตั้งฐานอยู่ในกัมพูชา มีการหลอกคนไทยไปทำงานใน แล้วบังคับให้ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรกลับมาหลอกคนไทย  คนถูกโทรหลอกกระจายไปทั่วทุกวงการ

 

บางคนบอกว่าคนถูกหลอกเพราะความไม่รู้  บ้างก็ว่าถูกหลอกเพราะความไม่ฉลาด ไม่เฉลียว  แต่หลายคนที่ถูกหลอก และบางคนถึงขั้นเสียน้ำตา ก็บอกว่าเรื่องแบบนี้อย่าด่ากันดีกว่า ใครไม่เจอก็คงไม่รู้

 

ตำรวจไทยมีองค์ความรู้เรื่องนี้ และทำเอ็มโอยูกับกัมพูชา ช่วยเหลือคนไทย และกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกคนไทยไปทำงานได้หลายแก๊งแล้ว

 

เบื้องหลังของแก๊งเหล่านี้เป็นอย่างไร  โครงสร้างของขบวนการเป็นแบบไหน  ทำไมถึงหลอกได้เนียน หลอกได้น่าเชื่อถือ  บางคนโอนเงินให้เป็นล้านๆ  เหยื่อมีทั้งชาวบ้าน ตุลาการ พยาบาล หมอ ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชน และคนมีสี พวกนี้มีอะไรดี ถึงหลอกได้มากมายขนาดนี้

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"

 

“เนชั่นทีวี” ได้ข้อมูลเชิงลึกจาก พลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ ผู้กำกับการสืนสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง พร้อมทีมงานซึ่งปฏิบัติการอยู่ในชุด PCT ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยตรง 

 

 

โครงสร้างของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

-กลุ่มนายทุนผู้อยู่เบื้องหลัง ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

 

-ทีมงาน แบ่งเป็น

 

1.ทีมคิดสตอรี่ ตั้งแต่ตั้งเรื่องหลอกลวง สร้างพล็อต กำหนดตัวละคร และสคริปต์ หรือบทพูดที่ใช้

 

2.ทีมจิตวิทยา เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องจิตวิทยา และพฤติกรรมมนุษย์ ทีมนี้จะคอยกลั่นกรอง “สตอรี่” ว่า เรื่องราวแบบไหนที่โดนใจคน  เหยื่อฟังแล้วจะหลงเชื่อได้ง่าย เกิดความกลัว หรือเกิดความเชื่อใจคนที่หลอก

 

3.ทีมเทรนนิ่ง อาจเป็นคนจาก 2 ทีมแรกผสมกัน เพื่ออบรมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ทั้งที่สมัครใจและหลอกมา ให้เข้าใจวิธีการหลอก ตลอดจนเทคนิค กลยุทธ์ และวิธีพูด วิธีรับส่งคำพูดต่างๆ

 

4.ทีมหาเหยื่อ หมายถึงหาคนที่มารับงานหลอกคนอื่นอีกที ซึ่งต้องเป็นคนชาติเดียวกับเป้าหมายที่จะหลอกลวง มีทั้งที่เต็มใจ และถูกหลอก แต่หลักๆ คือถูกหลอกมา เพราะอยากทำงานในต่างประเทศ หรือตกงานอยู่ เมื่อเข้าร่วมขบวนการแล้ว ก็ต้องเลยตามเลย เพราะจะถูกข่มขู่ บังคับ ทำร้าย

 

5.ทีมหา “บัญชีม้า” และดำเนินการเรื่องโอนเงินของเหยื่อเข้าสู่เครือข่าย

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"

 

อุปกรณ์ และวิธีการทำงาน

 

-ใช้เบอร์โทรระหว่างประเทศที่โทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ที่เรียกว่า VOIP

 

-ใช้ระบบ VOIP ที่ไม่มีไลเซนส์ ทำให้ตรวจสอบหาต้นทางไม่ได้ หรือยากได้ยาก

 

-สถานที่ ห้องเช่าที่บังคับให้เหยื่อที่ถูกหลอกมาเป็นทีมคอลเซ็นเตอร์อาศัยอยู่รวมกัน

 

-ปัจจุบันฐานของคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกคนไทย อยู่ในเมืองสีหนุวิลล์ ของกัมพูชา

 

-ฐานการเงิน ปลายทางส่วนใหญ่โอนเข้าที่เมืองพนมเปญ กัมพูชา

สาเหตุที่กัมพูชากลายเป็นฐานใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะ

 

-กัมพูชาเปิดรับนักลงทุนชาวจีน

 

-กฎระเบียบเอื้อให้กับนักลงทุน

 

-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่หลอกชาวกัมพูชา ทำให้ไม่มีผู้เสียหายที่จะแจ้งความดำเนินคดี

 

เหมือนสมัยที่คอลเซ็นเตอร์หลอกคนจีน มาตั้งฐานในไทย ใช้ไทยเป็นสถานที่หลอกคนจีน ก็จะไม่มีคนไทยเป็นผู้เสียหาย แต่เข้ามาเช่าบ้านให้คนจีนอยู่รวมกัน แล้วโทรกลับไปหลอกคนจีน

 

-สัญญาณอินเทอร์เน็ตดีเยี่ยม

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"

 

พัฒนาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

-มีการอัพเดท และ อัพเกรด สตอรี่การหลอกลวงไปเรื่อยๆ

 

-เมื่อสตอรี่เก่า คนเริ่มรู้ทัน ก็เปลี่ยนสตอรี่ใหม่

 

-“บัญชีม้า” (พวกรับจ้างเปิดบัญชีสำหรับโอนเงิน) มีการโอนตั้งแต่ 4 ทอดถึง 10 ทอด เพื่อไม่ให้ตามรอยได้ง่าย

 

-ลดการเบิกเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม เพราะบางตู้มีกล้องวงจรปิด ทำให้ตำรวจตามรอยได้ และไล่อายัดบัญชีได้

 

-ใช้วิธีแลกหรือซื้อเป็นเงินคริปโตฯ หรือบิทคอยน์

 

-ลุกลามเป็นแก๊งหลอกลวงในประเทศไทยเอง ดูดข้อมูลมือถือ ข้อมูลส่วนบุคคล แล้วนำข้อมูลไปใช้หลอกต่อญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของเหยื่อ โดยใช้ข้อมูลรายชื่อติดต่อในโทรศัพท์

 

*ดูดข้อมูลจากการลงทะเบียนเข้าเว็บพนัน หรือเว็บอื่นๆ หรือมีเว็บที่หลอกให้ลงทะเบียนไว้ แล้วจ่ายเงินจำนวนเล็กน้อยให้ในระยะแรก เหมือนได้เงินฟรี แต่เสียข้อมูลส่วนบุคคลไปหมด ถูกนำไปหลอกคนอื่นต่อ

 

-เปลี่ยนสตอรี่เป็น “หลอกลงทุน” เน้นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงาน และเล่นกับความโลภ

 

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"

 

เหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์  มี 2 กลุ่มหลักๆ คือ

 

กลุ่มแรก กลุ่มที่ถูกหลอกไปร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนตกงาน กลุ่มคนกำลังหางาน

 

กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่เป็นเหยื่อหลอกลวง

 

-คนไม่ดูทีวี

 

-คนที่ไม่ค่อยตามข่าวทางสื่อต่างๆ

 

-คนอยู่บ้าน และมีเงินเก็บ

 

ไม่จำกัดความรู้ ทุกคนมีสิทธิ์เป็นเหยื่อ เพราะหลอกเนียนมาก

 

มูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์ทุกประเภท ครึ่งปีราวๆ 500 ล้านบาท

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"

 

 

แนวทางแก้ไขของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

-ประกาศเป็น “วาระแห่งชาติ” ระดมกำลังคนและเครื่องไม้เครื่องมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมจัดการปัญหา

 

-ประสานทางการกัมพูชา ทำเอ็นโอยูความร่วมมือในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

-ประสานทางการกัมพูชา ขอหลักฐาน และผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิดกลับมาดำเนินคดีในไทย

 

-นำข้อมูลประสานทูตจีน เพื่อให้ช่วยประสานกับรัฐบาลจีน แก้ไขปัญหาอีกทาง

 

-ประสานธนาคาร ช่วยแก้ไข “บัญชีม้า” และเร่งอายัดเงินที่ถูกหลอกอย่างรวดเร็ว

 

 -ประสาน กสทช. ให้แจ้งผู้ให้บริการ หรือ operator กำหนดให้การโทรผ่านระบบ VOIP โชว์เลขหน้า 3 ตัว เช่น 888 / หรือ 111 แล้วประกาศให้ประชาชนทราบ เพื่อให้ใช้วิจารณญาณในการรับสาย ว่าจะรับหรือไม่ บางคนไม่มีใครรู้จักในต่างประเทศเลย ก็ไม่จำเป็นต้องรับ และสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเบอร์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"

 

 

จากข้อมูลทั้งหมด มีข้อสังเกตที่พึงคิดไว้เสมอว่า

 

1.รับข่าวสารจากสื่อต่างๆ จะได้ “รู้เทรนด์” และ “รู้ทัน” แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ช่วงนี้เป็นเทรนด์อ้าง DHL และอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ปปง. หรือดีเอสไอ เพื่อหลอกลวง

 

2.หน่วยราชการ และข้าราชการตัวจริง ไม่มีทางให้ประชาชนโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว

 

3.พึงระลึกไว้เสมอว่า เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่มีโทรบอกข้อมูล หรือแจ้งเตือนช่วยเหลือประชาชน

เจ้าหน้าที่เหล่านี้ จะสื่อสารกับประชาชน ใช้วิธีออกหมายเรียก หมายจับเท่านั้น

แม้แต่ขอให้สื่อช่วยเหลือ ขอภาพจากสื่อ ขอให้ใครมาเป็นพยาน ส่วนใหญ่ก็ออกหมาย ไม่มีโทรหา

ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ จะมีเจ้าหน้าที่หวังดีโทรหา และให้ความช่วยเหลือ (อย่าโลกสวย)

 

4.ระหว่างถูกหลอก แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะพยายามพูดไม่ให้วางสาย เพราะเกรงจะไปปรึกษาคนอื่น ถ้ามีการพยายามดึงไม่ให้วางสาย แสดงว่าคุณกำลังถูกหลอกอยู่

 

5.การป้องกันตัวเอง มีทางเดียว คือ “ไม่โอน” ท่องไว้แค่นี้ ก็จะรอดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

 

เปิดคู่มือ “รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อม \"เปิดโปงขบวนการข้ามชาติ\"