วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 7 คน จาก จ.เลย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธีรพจน์ คงหนู รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความกรณีถูกหลอกลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังถูกหลอกร่วมลงทุนซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมนำหลักฐานการโอนเงินซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล รูปถ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้มามอบให้กับตำรวจ
นางอุไร มาไส อายุ 50 ปี แม่ค้าขายของตลาดนัด ในอำเภอวังสะพุง จ.เลย เล่าว่า ช่วงเดือน ก.ย. 64 น.ส.อุ้ม เป็นคนในหมู่บ้าน พนักงานบัญชีบริษัทชื่อดัง และ น.ส.ปู ได้มาชักชวนให้ตนร่วมลงทุน โดยอ้างว่า ได้โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจากเจ๊รายหนึ่งในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยใน 1 กล่อง จะมีสลากกินแบ่งฯ จำนวน 5 เล่ม เล่มละ 100 ใบ รวมกล่องละ 500 ใบ จะต้องลงทุนกล่องละ 83,000 บาท จะได้กำไร 2,000 บาทต่อกล่อง
รอบแรกตนได้ลงทุนไป 30 กล่อง โดย น.ส.ปู เอาสลากกินแบ่งใส่กล่องมาโชว์ให้เห็นว่ามีสลากกินแบ่งฯ ของจริงๆ มาส่งให้ประมาณ 10 กล่องเท่านั้น พร้อมกับโอนเงินกำไรมาให้เป็นเงินจำนวน 60,000 บาท
พอรอบที่สอง เดือน ต.ค. - พ.ย. น.ส.ปู ได้มาที่บ้านพักติดต่อชักชวนให้ร่วมลงทุนอีกรอบ ตนจึงลงทุนเพิ่มไปอีก 43 กล่อง รวมเป็นเงิน 3,569,000 บาท คราวนี้ได้เงินกำไรจำนวน 86,000 บาท
จนเดือน ธ.ค. ได้ทวงถาม น.ส.ปู ไปกลับไม่ได้รับสลากกินแบ่งฯ และผลตอบแทนใด ๆ จึงตัดสินใจขอเงินทั้งหมดคืน แต่เมื่อทวงถามทั้งจาก น.ส.อุ้ม และ น.ส.ปู กลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่า เงินทั้งหมดที่ร่วมลงทุนอยู่ที่เจ๊ขาใหญ่ที่กองสลากฯ ซึ่งกำลังดำเนินการทำระบบใหม่ออนไลน์อยู่ พร้อมกับพูดข่มขู่ว่า หากใครไปแจ้งความจะไม่ได้รับเงินคืน
โดยในส่วนเงินลงทุนของพวกตนทั้ง 7 รายที่มาแจ้งความวันนี้รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท วันนี้พวกตนจึงเดินทางมาแจ้งความตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเหลือ เพราะเชื่อว่าถูกฉ้อโกง ส่วนชาวบ้านราย อื่น ๆ อีกจำนวนมากความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ยังไม่กล้าตัดสินใจมาแจ้งความ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้เงินที่ลงทุนคืน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ป.ตรวจสอบแล้ว ก่อนส่งต่อให้พนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ซึ่งตั้งอยู่ชั้นสองรับไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป