ความคืบหน้ากรณีผู้อำนวยการกองแผนที่และสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีชื่อรับโอนเกาะนุ้ยนอก ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เนื้อที่ 5 ไร่ 2.3 งาน และต่อมาประกาศขายในราคาไร่ละ 20 ล้าน เป็นเงิน 100 ล้านบาท
พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งตั้ง พนักงานสอบสวนในการทำหน้าที่หาความจริง 3 ประเด็น ดังนี้
1.กรณีตามเอกสารข่าวเดิมที่มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม DSI ประสานไปยังคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการดำเนินการแล้วโดย คณะกรรมาธิการฯ ได้ทราบและพิจารณาประสานข้อมูลกับ DSI โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.อมร หงส์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบ
2.กรณีดังกล่าวพบว่าเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ DSI ว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องการรับโอนที่ดินที่มีประเด็นข้อสงสัยว่าออกมาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อธิบดีDSI จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะสืบสวนข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน
3.ตามข่าวที่ปรากฏมีการกำหนดมูลค่าที่ดินประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งหากพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ในเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบก็อาจเข้าข่ายที่ DSI จะมีอำนาจดำเนินการ
ทั้งนี้ กองบริหารคดีพิเศษ ได้ประมวลเรื่องเสนออธิบดีDSI มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สืบสวนตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ แล้ว หากเข้าข่ายเป็นความผิดอันเป็นคดีพิเศษ ตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริง มีนายพลังชาติ เหมือนแก้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ลูกชาย พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เป็น หัวหน้าคณะ
ส่วนขบวนการที่ออกเอกสารสิทธิ์บนพื้นที่เกาะนุ้ยนอก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดั่งนี้ 1.ช่างรังวัด 2.ผู้สอบสวนสิทธิ์ 3.ช่างโยงยึดหลักหมุดเขตที่ดิน 4.ผู้กำกับการเดินสำรวจ และ 5.ผู้ที่ลงนามออกเอกสารสิทธิ์ฉโนดที่ดิน คือ นายชัยยุทธ หรือ เขียว ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.กระบี่ พังงา และ ตรัง ในปี งบประมาณ 2564 ปัจจุบันนี้ถูกยุบร่วมไปตั้งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการเดินสำรวจประจำปี งบประมาณ2565
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการเดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินของศูนย์เดินสำรวจจ.กระบี่ ประจำปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมานั้น มีการแบ่งสายภารกิจกันของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน8 สาย 3 จังหวัด คือ พังงา กระบี่ และ ตรัง แต่ละสายจะมาสิ้นสุดภารกิจที่นายชัยยุทธ หรือ เขียว
ในประเด็นของการใช้ ส.ค.1 อำเภอเกาะลันตา ผู้กำกับการเดินสำรวจ รายหนึ่งให้ข้อสังเกตว่า กรณีของการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่นี้ มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มาประสานที่ศูนย์หลายครั้ง แต่ไม่ทราบว่าประสานภารกิจใด เพราะแต่ละสายก็มีหน้าที่ต้องปฎิบัติงานของสายตัวเอง
ประเด็นต่อมา ทราบหลังจากที่เป็นประเด็นทางสื่อสารมวลชน และกลับไปดูรายละเอียดพบว่า ข้อดเท็จจริงกับพื้นที่ขัดแย้งกัน เช่นใน ส.ค.1 ระบุว่า มีผลอาสิน สวนยางและสวนมะพร้าว พื้นที่จริงเป็นป่าธรรมชาติเป็นป่าไม้ไม่ผลัดใบไม่ใช่สวนยางพาราแต่อย่างใด และเมื่อลงรายละเอียดที่ดินข้างเคียง ข้อมูลข้อที่ปรากฏก็ไม่ตรงข้อเท็จจริงอีก คือ พื้นที่ ถ้าเป็นจริงต้องแจ้งที่พื้นที่แนวเขตว่า เป็นพื้นที่ทะเลโดยรอบทั้ง 4 ด้าน ไม่ได้ติดที่ดินของใคร
ที่สำคัญทราบมาจากการให้สัมภาษณ์ของนายอำเภอเกาะลันตา ที่ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสุดท้ายว่า เอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ออกให้ผู้อ้างสิทธิ์จริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เสนอป.ป.ช.ชุดใหญ่ไต่สวนส.ค.1บินออกโฉนดเกาะนุ้ยนอก
-อธิบดีดีเอสไอสั่งสืบสวน บิ๊กDSIครอบครองโฉนดเกาะนุ้ยนอก100ล้าน
-นายอำเภอเกาะลันตา สรุปส.ค.1 บิน มาออกโฉนดเกาะนุ้ยนอก
-ป.ป.ช.กระบี่เดินหน้าสอบโฉนดเกาะนุ้ยนอกโยงบิ๊กDSI
-ป.ป.ช.กระบี่ตรวจโฉนดเกาะนุ้ยนอก 100 ล. บิ๊กDSIโผล่ครอบครอง