วันนี้ (23 พ.ย.64) ที่ศาลมุกดาหาร นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล พร้อมนางสาว สมพรหลาบโพธิ์พร้อมครอบครัวและทนายประกอบไปด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิดและคณะทำงานเดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ทางศาลได้นัดทั่งฝ่ายจำเลยคือไชย์พล วิภา พร้อมนางสาว สมพรหลาบโพธิ์
และ ฝ่ายโจทก์คืออัยการมุกดาหาร และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือแม่น้องชมพู่ นายอนามัยวงศ์ศรีชาพร้อมกับคณะทำงานเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ประกอบไปด้วยนาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยในวันนี้เป็นการนัดขึ้นศาลนัดพร้อมตรวจพยาน โดยทั่ง2ฝ่ายจะสามารถรู้ว่าหลักฐานพยานของแต่ละฝ่ายมีอะไรบ้างเพื่อที่จะนำไปต่อสู้แก้ต่างในขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เปิดเผยว่า วันนี้เราให้ทางอัยการมุกดาหารเป็นหลักส่วนทางแม่ชมพู่และทางทีมงานเป็นแค่โจทก์ร่วมค่อยเติมในสิ่งที่ข้อมูลไม่ครบถ้วนโดยหลักแล้วก็เป็นอัยการเป็นหลัก จากการที่ได้ประชุมหารือก็มีพยานของท่านอัยการทั่งหมด62ปาก ส่วนของทางเรามี5ปากที่มาเสริมให้ครบถ้วนสมบูรณ์รวมแล้ว67ปาก
ซึ่งในวันนี้ก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรทั่งหมดเพราะเราสามารถยื่นเพิ่มเติมได้ ส่วนของพยานก็จะแบ่งเป็น4กลุ่ม กลุ่มแรกก็เป็นกลุ่มของครอบครัว ทั่งครอบครัวผู้ต้องหา ครอบครัวผู้เสียหาย ในส่วนของกลุ่มที่สองก็จะเป็นชาวบ้านทั่วไป ในส่วนของกลุ่มที่สามก็จะเป็นนักวิชาการ นักนิติวิทยาศาสตร์ และในส่วนสุดท้ายกลุ่มที่สี่ก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน
ก่อนหน้านี้เมื่อ 7 กันยายน 2564 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 45 ปี เป็นจำเลยที่ 1 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตาย โดยเจตนา พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล
โดยปราศจากเหตุอันควร ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย
และร่วมกระทำการใดๆแก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ส่วน น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น อายุ 41 ปี เป็นจำเลยที่ 2 ถูกแจ้งข้อหาร่วมกัน กระทำการใดๆแก่ศพ หรือสภาพ แวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป