รวมความหลอน 10 ผีไทยสุดเฮี้ยน สยองจนขนหัวลุก

1.ผีกระสือ

ผีกระสือเป็นอีกหนึ่งผีที่อยู่กับความเชื่อของคนไทยมาอย่างช้านาน โดย “ผีกระสือ” เป็นผีชนิดหนึ่งที่สิงอยู่ในร่างผู้หญิงเชื่อว่าเป็นยายแก่ ชอบรับประทานของสดคาว มักออกหากินเวลากลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน และจะกลับเข้าร่างเวลาใกล้รุ่งสางทั้งนี้เชื่อว่าผู้ที่เป็นกระสือนั้นมักจะเป็นผู้ที่บูชาไสยศาสตร์มนต์ดำแต่ทำผิดข้อห้าม จนกลายเป็นกระสือไปในที่สุด

 

 

นอกจากของสดของคาวแล้ว กระสือยังชอบรับประทานของโสโครกเช่นอุจจาระ เมื่อรับประทานแล้วเห็นผ้าของใครตากทิ้งค้างคืนไว้ก็เข้าไปเช็ดปาก ผ้านั้นจะปรากฏเป็นรอยเปื้อนดวง ๆ ถ้าเอาผ้านั้นไปต้มกระสือจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนปากทนไม่ไหวจนต้องมาขอร้องไม่ให้ต้มต่อไป

 

กระสือนั้นเมื่อเจ็บจวนจะตายก็ไม่ตายเด็ดขาด และจะต้องคายน้ำลายของตนถ่ายเข้าปากลูกหลานคนใดคนหนึ่งไว้ให้สืบทายาทเป็นกระสือต่อก่อน ตนจึงจะตายได้โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป

 

2.ผีกระหัง

ผีกระสือเป็นผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้ชาย เชื่อกันว่าเดิมเป็นผู้ชายที่เรียนวิชาอาคมแก่กล้าแต่ไม่อาจควบคุมมนต์ดำไสยศาสตร์ได้จนของเข้าตัวจนกลายเป็นกระหัง มีปีกมีหาง จะไปไหนก็ใช้กระด้งต่างปีก สากตำข้าวต่างขา สากกะเบือต่างหาง ชอบกินของโสโครก คู่กับผีกระสือ ซึ่งเป็นผู้หญิง

 

3.ผีปอบ

ผีปอบมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีวิชาทางไสยศาสตร์และมีมนต์ดำที่แก่กล้า สามารถใช้วิชาเหล่านั้นเพื่อไปทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายได้ เช่น การทำเสน่ห์ยาแฝด การเสกหนังควายเข้าท้อง หรือการใช้มนตราเพื่อบังคับภูติ ผี วิญญาณ ให้เข้าไปสิ่ง โดยผู้ที่จะกลายเป็นผีปอบได้จะต้องเป็นผู้ที่ใช้วิชาอาคมอย่างหนักไปทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาป จนกระทั่งอาถรรพ์ย้อนกลับเข้ามาทำร้ายตัวเองจนกลายเป็นผีปอบไปในที่สุด

โดยปอบชอบกินเนื้อดิบ เครื่องในสดๆ โดยใช้วิธีเข้าสิงคนเพื่ออาศัยร่างเหล่านั้นในการหากินคล้ายๆ กับ “สัมภเวสี” หรือ “อสูรกาย”

 

 

4.ผีตายทั้งกลม

ผีตายทั้งกลม หรือบางคนเรียกว่าผีตายท้องกลมขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งผีของไทยที่มีความเฮี้ยนและดุเป็นอย่างมาก โดยผู้หญิงที่ตายขณะที่กำลังตั้งครรภ์ลูกในท้องหรือขณะที่กำลังคลอดลูก ทำให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก นับเป็นการตายโหงอีกรูปแบบหนึ่ง โดยผีตายทั้งกลมที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยที่สุด ได้แก่นางนาค หรือแม่นาคพระโขนง  ซึ่งถือเป็นตำนานความเฮี้ยนจนถูกสร้างเป็นภาพยนต์ โดยการหลอกหลอนคนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ถ้าใครเดินผ่านบ้านจะได้ยินเสียงกล่อมเด็กดังวังเวงมาจากในบ้าน  หรือหนักหน่อยอาจจะมีคนเห็นเปลเด็กผูกอยู่บนคบไม้สูง โดยมีผีตายทั้งกลมนั่งกล่อมลูกอยู่ข้างล่าง ส่วนมือยืดยาวขึ้นไปบนคบไม้ ไกวเปลให้ลูก

5.ผีพราย

ผีพรายส่วนใหญ่มีถิ่นที่อยู่อยู่ในน้ำมากกว่าบนบก เชื่อกันว่าเป็นจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กสุดตามลำดับของดวงจิตวิญญาณที่สามารถปรากฏให้รับรู้ได้ คือ พราย ภูติ ผี ปีศาจ ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากการหมักหมมของซากพืชหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ ดวงจิตวิญญาณนี้มักแสดงตนมีลักษณะเป็นผู้หญิงใส่เสื้อสีขาว เป็นดวงไฟเรืองแสง มักปรากฏตัวตอนเวลาหกโมงเช้า เที่ยงวัน หกโมงเย็น และเที่ยงคืน มักอยู่ในคลองหรือแม่น้ำที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เมื่อจับเหยื่อได้จะเอาร่างเหยื่อที่ไร้วิญญาณเป็นร่างของตน ทั้งนี้มักมีเรื่องเล่าต่าง ๆของผีพรายที่ปรากฎตามข่าว เช่น ตามแม่น้ำหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่มักจะมีผู้เสียชีวิตโดยบางคนเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ของผีพรายที่มาเอาชีวิต

 

 

6.ผีเปรต

ผีเปรตเป็นอีกหนึ่งผีตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล คอยาว ผอมโซ ผิวดำ มือเท่าใบตาล ปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้ จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วเกิดใหม่ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่

 

นอกจากนี้ในทางพุทธศาสนาคำว่า เปรต แปลว่า ผู้ตายไปแล้วเป็นสัตว์พวกหนึ่งที่เกิดในเปตสิสัยซึ่งเป็นอบายภูมิ 1 ใน 4 ซึ่งประเภทของเปรตมีหลายประเภท เช่นประเภทหนึ่งเรียกว่า ปรทัตตูปชีวิเปรต คือเปรตที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้ทำอุทิศให้ หากไม่มีส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ก็มักจะกินเลือดและหนองของตัวเองเป็นอาหาร โบราณมีความเชื่อที่ว่า ถ้าใครทำร้ายพ่อแม่ ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นผีเปรต

 

 

7.ผีตานี

ผีตานี เป็นผีผู้เหญิงสถิตย์อยู่ในต้นกล้วยตานี ว่ากันว่านางตานีมีหน้าตาสวย กลิ่นตัวหอม ไว้ผมยาว ฝ่ามือฝ่าเท้าแดงอ่อนดุจตีนนกพิราบ ริมฝีปากมีสีเหมือนตำลึงสุก โดยเหตุที่พรายนางตานีเป็นผี ชาวบ้านจึงไม่กล้าปลูกกล้วยตานีไว้ใกล้เรือน แม้จะปลูกไว้ใกล้เรือน ถ้าจะตัดเอาใบตองไปใช้ ก็ห้ามไม่ให้ตัดเอาไปทั้งใบ ต้องเจียนเอามาแต่ใบตองเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องหักก้านเสียก่อน เพราะถ้าตัดเอาเข้ามาในเรือนทั้งใบ ถือเป็นลางร้ายว่าจะมีใครในบ้านนั้นตายลงในไม่ช้า ทั้งนี้เห็นจะเนื่องจากคติเดิมที่ใช้ใบตองกล้วยตานีสามใบรองก้นโลงศพ

 

 

8.ผีไพร

ผีไพรหรือผีที่สิงสถิตย์อยู่ในป่าเขา เช่นเสือสมิง เสือที่เชื่อว่าเดิมเป็นคนที่มีวิชาอาคมแก่กล้าแล้วต่อมาสามารถจำแลงร่างเป็นเสือได้ หรือเสือที่กินคนมากๆ เข้าไปจนวิญญาณคนตายเข้าสิง ต่อมาสามารถจำแลงร่างเป็นคนได้ โดยบางวันจะแปลงร่างมาหลอกลวงคนที่เดินทางในป่าเพื่อจับกินเป็นอาหาร โดยมักจะแปลงตัวมาเป็นคนบาดเจ็บ สาวชาวป่า หรือเป็นคนรู้จักมาตามให้กลับบ้านเพื่อหลอกล่อให้เหยื่อหลงกล และอีกนัยหนึ่งคือผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้าแต่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ของเข้าตัว กลายเป็นเสือสมิง เสือสมิงพวกนี้จะเรียกว่า สมิงอาคม

 

 

9.ผีโหงพราย

ผีโหงพราย หรือโหงพราย วิญญาณผีตายโหง ที่ตายจากอุบัติเหตุร้ายแรงหรือถูกฆาตรกรรม และถูกนำมาเลี้ยงไว้ใช้งานเช่นปล่อยไปกับของสำหรับทำเสน่ห์ เพื่อให้ของนั้นแรงยิ่งขึ้น หรือจะใช้ไปทำร้ายศัตรูก็ได้ , บางคนที่เป็นนักเลงหัวไม้ อาจจะใช้โหงพรายในการกระซิบเตือนภัยที่อาจเกิดขึ้นหรือ “พรายกระซิบ”  ทั้งนี้ผีโหงพรายถือเป็นหนึ่งในศาสตร์มนต์ดำ ผู้เลี้ยงจะต้องเซ่นไหวอย่างดีทั้งอาจเป็นเหล้า หรือเลือดสด ๆไม่เช่นนั้นผีโหงพรายอาจย้อนไปทำร้ายผู้เลี้ยงได้ 

 

10.ผีแม่หม้าย

ผีแม่หม้าย เป็นอีกหนึ่งตำนานผีเฮี้ยนจากภาคอีสานว่ากันว่า เป็นผีผู้หญิงที่มักเอาชีวิตผู้ชายวัย 20 – 50 ปี

โดยชายเหล่านั้นจะนอนตายตอนกลางคืนโดยไม่มีสาเหตุ เพราะผีแม่หม้ายแอบมาเสพสมกับผู้ชายเหล่านั้นตลอดทั้งคืน ด้วยความกลัวผีแม่หม้าย ชาวบ้านได้คิดหาวิธีแก้เคล็ดเพื่อไม่ให้ผีแม่หม้ายมาเอาชีวิตผู้ชายในหมู่บ้านไป บ้างก็ใช้ปลัดขิกอันใหญ่ทาสีแดงที่หัวปลัดขิกติดไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ผีแม่หม้ายมาเสพสมกับปลัดขิกที่ห้อยอยู่แทน หรือให้ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพื่อหลอกผีแม่หม้ายให้รอดพ้นจากความตายได้