นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความพร้อมใยการเปิดประเทศ ว่า กรมการกงสุลได้ประสานทำความเข้าใจกับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Thailand Pass เพื่อรองรับการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564
แพลตฟอร์ม Thailand Pass เป็นระบบ web-based ที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) จัดทำระบบขึ้นใหม่ และถูกออกแบบมาเพื่อให้กระบวนการจัดทำเอกสารของผู้เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้แทนการยื่นผ่านระบบขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry-COE) ออนไลน์ เพื่อสร้างความสะดวกแก่ผู้เดินทางมากยิ่งขึ้นและลดขั้นตอนการอนุมัติที่ไม่จำเป็นลง
นายธานี กล่าวว่า ผู้ประสงค์เดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งคนไทยและต่างชาติ จะต้องเข้าไปลงทะเบียน กรอกข้อมูลและอัพโหลดเอกสารต่าง ๆ ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
โดยแพลตฟอร์ม Thailand Pass มีเป้าหมายสนับสนุนนโยบายอำนวยความสะดวกการเดินทาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Ease of Traveling หลังการเปิดประเทศ โดยจะลดขั้นตอนการกรอกและอัพโหลดเอกสารของผู้เดินทางก่อนเข้าประเทศไทย รวมถึงการกรอกข้อมูลผ่าน ต.8 (แบบสำรวจด้านสุขภาพ) และ ตม.6 (แบบเข้า-ออกราชอาณาจักร) ใน Thailand Pass อีกด้วย
ในข้อกำหนดของ Thailand Pass นั้น จะต้องเตรียมเอกสารสำคัญๆสำหรับใช้ลงทะเบียนเพื่อให้รับ “คิวอาร์โค้ด” จะสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้แก่
นายธานี กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้แพลตฟอร์ม Thailand Pass ได้ปรับบทบาทหน้าที่สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก จากการเป็นผู้อนุมัติหรือออก “ใบรับรองเดินทาง” ตามรูปแบบของ COE มาเป็นผู้ช่วยประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำ ในการลงทะเบียนในระบบใหม่ของ Thailand Pass ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนอนุมัติจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่อีกต่อไป
เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย ผู้เดินทางต้องมีหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด เป็นลบ ด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งทำการตรวจก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจากนั้น จึงสามารถเดินทางไปพื้นที่ต่าง ๆ ได้
ส่วนเรื่อง “เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน” (Vaccination Certification) กรมควบคุมโรคจะเป็นผู้อนุมัติผ่านระบบ Thailand Pass โดยขณะนี้ไทยได้รับ Public Key Infrastructure (PKI) ของ vaccine certificate หรือระบบรหัสสาธารณะสำหรับใบรับรองวัคซีน จากประมาณ 30 ประเทศ เพื่อใช้เตรียมการสำหรับการตรวจสอบแล้ว ส่วนประเทศที่ไทยยังไม่ได้รับ PKI ยังคงตรวจสอบเอกสารรายบุคคลต่อไป