นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ มีกำหนดปฏิบัติราชการออนทัวร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 14-16 ตุลาคม 2564 โดยได้เดินทางไปศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
เพื่อประชุมหารือร่วมกับผู้บริหาร ศอ.บต. ในการติดตามการพัฒนา ณ ห้องประชุมอาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา และผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมประชุมหารือในครั้งนี้
นายจุรินทร์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายภายหลังฟังผลการดำเนินงานของ ศอ.บต.ว่า การพัฒนา จชต. จากการดำเนินงานของ ศอ.บต. ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดชายแดน มีความชัดเจนเห็นเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้การขับเคลื่อนเมืองต้นแบบที่ 4 นิคมอุตสาหกรรมจะนะ และการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาผลไม้ในพื้นที่ เป็นทิศทางที่ถูกต้อง
รวมทั้ง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศผลิตอาหารของโลก จะขับเคลื่อนให้อยู่ในอันดับที่ 1 ของโลกจากอันดับที่ 11
ในขณะนี้ การส่งออกสินค้าฮาลาล จึงเป็นเรื่องสำคัญ และไม่มีพื้นที่ใดเหมาะสมในการแปรรูปอาหารฮาลาลเท่ากับจังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตามขอประกาศมาตรการ 17+1 การบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2565 โดยมาตรการ 17 ด้าน เป็นมาตรการที่หนุนเสริมแล้วในภาคตะวันออกของประเทศ ส่วน +1 เป็นมาตรการเร่งรัดการเปิดด่านชายแดนใต้ เพื่อระบายสินค้าทางการเกษตรไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในปี 2563 ชายแดนใต้ส่งออกผลไม้มีมูลค่ากว่า 765 ล้านบาท แต่ในปีนี้ส่งออกได้ถึง 1,447 ล้านบาท เพียงระยะเวลา 6 เดือน
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า มอบหมายให้ ศอ.บต. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้ภาครัฐสามารถส่งเสริมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ได้ในอนาคต พร้อมมอบหมายการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องเดินหน้า ขับเคลื่อนต่อไปให้ประสบความสำเร็จ เป็นอุตสาหกรรม BCG หรืออุตสาหกรรมสีเขียว
"เกษตรกรที่ส่งออก รัฐมีนโยบายช่วยเหลือ 2 เรื่อง คือ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้กู้ 3 เปอร์เซ็นต์ และกระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือเกษตรกรส่งออกผลไม้ กิโลกรัมละ 5 บาท"
อย่างไรก็ตาม สำหรับการวางแนวทางการส่งเสริมการปลูก ทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลไม่ได้เน้นวางมาตรการในการส่งเสริมการปลูก แต่เน้นการส่งออก ซึ่งหากการส่งออกมีมาก เกษตรกรก็ควรจะปลูกให้มากขึ้น อย่างไรแล้ว ทุเรียนในพื้นที่ จชต. มีการปลูกอยู่ในทุกพื้นที่ และถือเป็นทุเรียนที่พัฒนาได้ ซึ่งถือเป็นทุเรียนที่ได้รับมาตรฐาน ตลาดทั่วไปยอมรับถึงความพิเศษของทุเรียนในพื้นที่ ที่อร่อยแตกต่างจากที่อื่น
สำหรับกิจกรรมออนทัวร์ จชต. รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยี่ยมชมการแปรรูปทุเรียน ณ บริษัทม่านกู่หวางฟู๊ด จำกัด และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ใน จ.สงขลาอีกด้วย