12 ตุลาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ประกาศไว้เมื่อคืนนี้ (11 ตุลาคม 2564) กับประชาชนในการเปิดประเทศ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข รับนโยบาย จะต้องหามาตรการ หาวิธีการ ที่จะทำให้นโยบายต่างๆ คำสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกิดผลให้ได้
โดยเบื้องต้น ได้แจ้งให้ที่ประชุม ถึงการกำหนดคุณสมบัติคนที่จะเข้ามาในประทศ โดยไม่อยากให้จำกัดแค่ 10 ประเทศ แต่อาจต้องไปพิจารณาจากข้อมูล หากเข้ามาในประเทศไทย เช่น ผ่านสุวรรณภูมิ จะต้องพักในกรุงเทพมหานครก่อน 1 คืน เพื่อรอผล ตรวจ RT-PCR
แฟ้มภาพ : นักท่องเที่ยวเดินทางมาเกาะสมุย
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ในปีนี้แตกต่างจากปีที่แล้ว เนื่องจากปีนี้มีการฉีดวัคซีนโควิดที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงมาตรการสาธารณสุขต่างๆ คาดว่าน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่งในการรักษาชีวิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ไปหามาตรการปลอดภัยมากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ในการควบคุมโรคและประโยชน์กับพี่น้องประชาชน
ในส่วนการเข้ามาในประเทศไทย ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของไทย แสดงเอกสารต่างๆ ที่ประเทศไทยยอมรับ คือ
ส่วนเรื่องการจัดหาวัคซีนในการดำเนินได้พยายามเร่งรัดการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะใน 17 จังหวัดนำร่องที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ได้ครอบคลุมประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าจะฉีดวัคซีนได้ครบตามจำนวนก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน
ซึ่งการฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่ในหลายจังหวัดได้รับวัคซีนทั้งเข็ม1 และเข็ม 2 และจะกระจายวัคซีนทยอยไปจนครบ โดยจะทำการฉีดครบก่อนสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม วัคซีนมามาก ประสิทธิภาพในการฉีดก็จะเพิ่มขึ้น จะทำ 2 ปัจจัยนี้พร้อมกัน
ขณะที่ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พูดถึงการเปิดประเทศ ว่า ตามนโยบายนั้น สิ่งสำคัญในส่วนของประเทศไทย ต้องมีการเตรียมสถานที่ การท่องเที่ยว ส่วนคนมีการเตรียมการฉีดวัคซีน คาดว่าสิ้นเดือนตุลาคม จะฉีดวัคซีนคลอบคลุม ร้อยละ40 ของคนรับเข็ม 2 แล้ว ซึ่งเราสามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้า
ส่วนของนักท่องเที่ยว มีข้อกำหนด ซึ่งก็เหมือน ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ถือว่าได้ผลดี ในการควบคุมป้องกัน เพราะเท่าที่ดำเนินการมานั้น พบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาน้อยมาก
แต่ทั้งนี้ ในการเปิดรับนักท่องเที่ยว ไม่กำหนดจำนวนคนต่อวัน เพราะศักยภาพในการตรวจของห้องปฏิบัติการมีศักยภาพในการตรวจเพียงพอ มีที่พักคอยรองรับเพียงพอในระหว่างรอผล โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมด นักท่องเที่ยวจะเป็นผู้รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดประเทศเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว จะมีการประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายอีกหรือไม่ต้องดูผลการประเมินในรอบนี้ก่อน