"ไฟเซอร์" (Pfizer Inc) ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นคว้าวิจัยยาระดับโลก เริ่มการทดลองในระยะสุดท้ายของยาชนิดรับประทานเพื่อป้องกันโควิด-19 ที่มีชื่อว่า "PF-07321332" ซึ่งเป็นการทดสอบกับผู้ที่เคยสัมผัสผู้ป่วยตามอาการ
โดยยาตัวนี้ เป็นยาต้านไวรัสในรูปแบบ "protease inhibitor" หรือ ตัวยับยั้ง "เอ็นไซม์โพรทีส" ที่ป้องกันไม่ให้ไวรัสเพิ่มจำนวนขึ้นภายในเซลล์ และมีประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วย HIV และโรคตับอักเสบ C ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสตัวอื่นได้
(แฟ้มภาพ)
ในการทดสอบครั้งล่าสุดกับอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับคนที่มีอาการติดเชื้อโควิด-19 โดยครึ่งหนึ่งได้รับยาจริงและอีกครึ่งหนึ่งได้รับยาหลอก โดยทุกคนจะต้องกินยาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน หรือ 10 วัน เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ทำการประเมินว่า ยามีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อหรือไม่ และผู้รับยามีอาการในระยะ 14 วัน หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อหรือไม่
(แฟ้มภาพ)
ไฟเซอร์ ซึ่งพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับ ไบโอเอ็นเท็ค (BioNTech SE) ของเยอรมนี และได้รับอนุญาตเป็นรายแรกในสหรัฐฯ แถลงก่อนหน้านี้ว่า PF-07321332 ได้แสดงให้เห็นศักยภาพในการต้านไวรัสให้ห้องปฏิบัติการทดลอง แต่ก็ถือว่ายังตามหลังคู่แข่งสัญชาติเดียวกันอย่าง "เมิร์ค" (Merck) ที่จับมือกับ"บริดจ์แบ็ค ไบโอ" (Ridgeback Bio) และ"โรช โฮลดิ้ง" (Roche Holding) กับ "เอที ฟาร์มาซูติคัลส์ "Atea Pharmaceuticals"
ซึ่งน่าจะเป็นอีกทางเลือกนอกเหนือจากยา "เรมเดซิเวียร์" (Remdesivir) ของ "กิลเลียด ไซแอนเซส" (Gilead Sciences) ที่เป็นยาต้านไวรัสชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองให้ใช้รักษาโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ