หากจะนับวันที่ 19 ก.ย.2549 เป็นหนึ่งในวัน “เริ่มต้น” ความขัดแย้งทางการเมืองไทย ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมีหลายคนที่มองว่า รัฐประหารครั้งนั้น ได้หมักหมมความเกลียดชังมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากเรื่องยึดอำนาจแล้ว ถือเป็นการนับหนึ่งที่ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ แต่หากใครยังจำกันได้ จะพบว่า มีช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่อดีตนายกฯ ท่านนี้ ได้เดินทางกลับเมืองไทย ไม่ใช่ Check-in ดูไบ เหมือนในปัจจุบัน
หากย้อนหมุนเข็มนาฬิกากลับไป จะพบว่า “ทักษิณ” กลับไทยครั้งแรก ในวันที่ 28 ก.พ.2551 นับตั้งแต่ออกจากประเทศเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2549 หรือก่อนรัฐประหารเพียง 10 วัน ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 1 ปี 5 เดือน ที่เจ้าตัวต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่นลี้ภัยในต่างแดน
ก้าวแรกที่ “ทักษิณ” เหยียบผืนแผ่นดินไทยในครานั้น กลายเป็นภาพหน้า 1 ของสื่อทุกสำนัก และถูกจารึกเป็นภาพประวัติศาสตร์การเมืองไทย
โดยวันนั้น “ทักษิณ” เดินทางด้วยเครื่องบิน TG 603 จากฮ่องกง มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 09.45 น.เมื่อมาถึงเจ้าตัวได้เข้าสวมกอดครอบครัว และทักทายบุคคลที่มารอต้อนรับ ก่อนคุกเข่าและก้มกราบพื้น 1 ครั้ง ที่หน้าห้องรับรองพิเศษ พร้อมหยุดนิ่งท่าเดิม และเงยหน้าขึ้นมา ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
จากนั้น “ทักษิณ” ใช้เวลาบางส่วนในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งการเดินทางไปยังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อรายงานตัวในคดีทุจริตที่ดินรัชดา ต่อด้วยการรายงานตัวอัยการสูงสุด คดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีแอสเซท จำกัด (มหาชน) ในเครือ “ชินคอร์ป”
กระทั่งเวลาแห่งความสุขผ่านไปเพียง 5 เดือน 3 วัน “ทักษิณ” ขออนุญาตศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเดินทางออกนอกประเทศในวันที่ 31 ก.ค.2551 อ้างว่า ต้องการไปชมมหกรรมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ครั้งนั้นอดีตนายกฯ ท่านนี้ ให้คำมั่นสัญญาว่า จะกลับเข้าประเทศในวันที่ 11 ส.ค.2551 แต่แล้วก็เป็นแค่ “สัญญาลมปาก” เพราะชายที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่เคยกลับเข้าประเทศไทยอีกเลย??