จากข้อมูลที่ได้รับจากชาวบ้านในพื้นที่ และภาคประชาสังคมชายแดนใต้ มีการระบุว่า ขบวนการขนของเถื่อนไม่ได้มีเฉพาะสุราและบุหรี่หนีภาษี แต่ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ และวิธีการขนส่งนั้นมีด้วยกันหลายวิธี ทั้งทางรถและทางเรือ แต่การขนส่งทางเครื่องบิน จะเป็น “ออเดอร์พิเศษ” จากผู้บังคับบัญชาระดับสูงเท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรู้เห็นทุกขั้นตอน แถมบางร้านเปิดจำหน่ายกลางเมืองก็ยังมี และโดยมีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลัง
ขณะที่ บุหรี่เถื่อน เหล้านอก ได้ถูกนำเข้ามาทางด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ก่อนจะส่งต่อมาขายในพื้นที่ โดยเจ้าของมีทั้งอดีตข้าราชการและที่ยังอยู่ในราชการ แถมกระจายหลายพื้นที่ด้วย
ทีมข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามไปยัง “บิ๊กแหมว” พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อจะขอข้อมูลหรือความคืบหน้าในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
“รอง ผบช.ภ.9 ยัน มีหลักฐานคดีฉาว รถขนเหล้า-บุหรี่เถื่อน”
ทีมข่าวจึงพยายามโทรศัพท์สอบถามไปยัง พลตำรวจตรี กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าคดีกลุ่มชายหัวเกรียนขับรถตกถนน ซึ่งในรถมีบุหรี่ และสุรานอกหนีภาษีมูลค่านับล้านบาท เหตุเกิดเมื่อปี 2562 โดยพลตำรวจตรี กฤษฎา เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง บอกว่า ในวันที่เกิดเหตุตนเพิ่งกลับจากการไปเป็นประธานพิธีสมรสคู่หนึ่ง ซึ่งตนก็ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น
โดยหลังจากเกิดเหตุตนได้ถามไปยังตำรวจร้อยเวรเจ้าของคดี บอกว่า สิ่งของที่พบในรถที่ตกถนนเป็นแค่กล่องสินค้าเท่านั้น และได้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่างๆเรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งมีเอกสารหลักฐานในการยืนยันเรื่องนี้อยู่ แต่กรณีที่มีการอ้างว่า พบกลุ่มชายหัวเกรียนเป็นคนขับรถมา ตนเองก็ไม่ทราบข้อมูลว่า กลุ่มชายหัวเกรียนพวกนั้นคือใคร
ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถที่เกิดเหตุนั้น ทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้รายงานให้ตนเองทราบถึงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียน “แต่ตนเองจำไม่ได้ว่า มีเหตุผลอะไรถึงต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียน” เพราะเรื่องเกิดขึ้นนานแล้ว
ทีมข่าวได้พยายามถามกับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ต่อไปอีกว่า ประเด็นที่ชาวบ้านในพื้นที่และและภาคประชาสังคมชายแดนใต้ ให้ข้อมูลว่า ขบวนการขนของเถื่อนที่ไม่ได้มีเฉพาะสุราและบุหรี่หนีภาษี แถมมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรู้เห็นทุกขั้นตอน แถมบางร้านเปิดจำหน่ายกลางเมืองก็ยังมี และโดยมีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังนั้น
พลตำรวจตรี กฤษฎา ตอบกลับมาว่า ขอให้ไปสอบถามเรื่องนี้กับพลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เนื่องจากตนเองปฎิบัติหน้าที่ในส่วนอำนวยการ จึงไม่มีอำนาจในการให้คำตอบเรื่องนี้ได้ หรือนักข่าวต้องไปถามผู้บังคับการจังหวัดกันเอาเอง
"ผู้การยะลา ยืนยัน ทลายแก๊งขนเหล้า-บุหรี่หนีภาษีแล้ว"
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง พลตำรวจตรี ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการจังหวัดยะลา กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับขบวนการขนสุราและบุหรี่เถื่อน แถมมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรู้เห็น และบางร้านมีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังนั้น
ผู้บังคับการจังหวัดยะลา บอกว่า เมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ฝ่ายปกครองท้องถิ่น และทหาร ได้ระดมกวาดล้างขบวนการขนเหล้าและบุหรี่หนีภาษีเหล่านี้ และมีข้อมูลปรากฎเป็นข่าวไปแล้ว พร้อมขอยืนยันว่า ขบวนการเหล่านี้ได้หมดไปแล้วในพื้นที่จังหวัดยะลา แต่อาจจะมีบางรายที่หลุดรอดและพยายามกระทำความผิดแบบเดิมอยู่
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นทุกขั้นตอน และร้านบางแห่งมีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังนั้น ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งมีทั้งตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่สรรพากร และทางจังหวัดยะลา เข้าร่วมในการตรวจสอบทั้งหมด โดยจะเร่งขยายผลหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังต่อไป