อยากโต...ต้อง “ตามนาย” ตลกร้ายวงการ “สีกากี”

"เนชั่น ทีวี" ได้รับข้อมูลจากผู้สื่อข่าวรุ่นเก๋า ซึ่งคลุกคลีอยู่ในแวดวงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มานานกว่า 30 ปี ระบุว่า วัฒนธรรมของ "ตำรวจ" กับ "ทหาร" มีความแตกต่างกัน อย่างทหารจะมี "ทหารเกณฑ์" แต่ตำรวจจะไม่มี "ตำรวจเกณฑ์" ฉะนั้น การใช้งานตำรวจจะไม่ได้ดู "หวือหวา" เหมือนทหารเกณฑ์

ส่วนตำรวจที่จะไปทำงานลักษณะนี้ ก็มีทั้งชั้นสัญญาบัตร และชั้นประทวน ซึ่งทุกคนที่เสนอตัวไปทำงานแบบนี้ ก็มีเป้าหมายอยู่ในใจอยู่แล้ว หรือเรียกอีกอย่างว่า "ตามนาย" เพราะเขารู้ว่า ถ้าไปทำงานให้ "นาย" ก็จะมีผลต่างตอบแทนกันซึ่งกันและกัน หากรับใช้นายได้ดีและถูกใจก็จะได้รับการดูแลอย่างดี

ยกตัวอย่าง ตำรวจชั้นสัญญาบัตร หากไปทำงานกับตำรวจผู้ใหญ่ก็จะได้รับการตอบแทนด้วยการเติบโตในด้านตำแหน่งหน้าที่การงาน บางคนมีชื่ออยู่หน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ แต่ตัวไปได้ไปทำงานที่หน่วยจริง ซึ่งไปทำงานให้นายแทน

ไม่ต่างจากตำรวจชั้นประทวน ซึ่งมีระดับยศตั้งแต่นายสิบ นายดาบ ไปจนถึงจ่า หากบางคนเรียนจบตามวุฒิที่กำหนดไว้ ก็จะถูก "นาย" ผลักดันเติบโตขึ้นไปอีก

ส่วนหน้าที่ของตำรวจเหล่านี้ ก็มีแทบทุกแบบ เช่น ไปรับส่งลูกนายตำรวจใหญ่ ดูแลภรรยาช่วยงานต่างๆ บางคนก็คอยส่งเอกสารให้ ส่งกระเช้าอวยพร หรือบางคนเป็นตำรวจที่มีฝีมือ ก็จะทำหน้าที่ "พลขับ" รวมถึงดูแลความปลอดภัยไม่ต่างจากบอดี้การ์ด แม้แต่อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีจัดคนไปดูแล "อดีตนาย" ที่เคยอุ้มชูกันมาในสมัยยังเป็นตำรวจยศเล็กๆ ซึ่งบางหน้าที่จะมีระเบียบของตำรวจรองรับ อย่างเช่น กรณีไปขับรถให้นาย หรือไปดูแลอดีตตำรวจผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ซึ่งจะเป็นไปตามโควต้าที่มีการแบ่งกันไว้ ซึ่งตำรวจตั้งแต่ระดับ ผู้บังคับการ หรือ ผู้บัญชาการ จะมีการใช้สิทธิ์ในลักษณะนี้