svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แจ้งจับบอร์ดบริหารสถานีโทรทัศน์ช่องใหญ่ ไม่รายงานตัว ด่ากราดเจ้าหน้าที่

15 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยแจ้งจับเจ้าหน้าที่ธุรการ ดูแลด้านปฏิบัติการออกอากาศ และเป็นคณะกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร หลังฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัด ไม่รายงานตัวไม่กักตัวและด่ากราดเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2564  นายภูริวัจน์  โชตินพรัตน์ นายอำเภอวังสะพุง  มอบหมายให้นายวีระพล ใจดี และนายชาคริต ดาสว่าง  ปลัดอำเภอวังสะพุง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับ ร.ต.อ.จักรชัย จันนา ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังสะพุง จ.เลย ให้ดำเนินคดีกับนางสาวธัญวรินทร์ (สงวนนามสกุล) เนื่องจากไม่รายงานตัวต่อเจ้าหน้าหลังจากเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

 

นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอวังสะพุง   เปิดเผยว่า ก่อนที่จะตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้เดินทางจากกรุงเทพฯมาด้วยรถส่วนตัว เข้ามาในพื้นที่อำเภอวังสะพุงบ้านพักในสวนยางพารา ท้องที่หมู่ 6 ตำบลปากปวน อ.วังสะพุง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม แต่ไม่มารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ที่ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม. ภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดเลย ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดเลยกำหนดไว้

แจ้งจับบอร์ดบริหารสถานีโทรทัศน์ช่องใหญ่ ไม่รายงานตัว ด่ากราดเจ้าหน้าที่

ซึ่งผู้ใหญ่บ้านและคณะได้อำนวยความสะดวกแก่ บุคคลดังกล่าวโดยได้เข้าพบที่บ้าน เพื่อให้บริการรับรายงานตัว พร้อมขอให้บุคคลดังกล่าวแสดงผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง  หรือหากยังไม่ตรวจ ก็ขอให้เข้ารับการตรวจโรคด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit หรือวิธี RT-PCR  แต่หญิงรายนี้กลับไม่ให้ความร่วมมือ จนท.แจ้งกลับมายังนายอำเภอฯว่าไม่ยอมกักตัวและยังด่า จนท.อีกด้วย   ตนจึงให้ จนท.ทีม 5 เสือ ไปบอกกล่าวให้เข้ามารายงานตัวมาพบนายอำเภอฯ ก็ยังด่าเจ้าหน้าที่อีกรอบที่ 2    เรื่องนี้เพียงขอให้กักตัวภายในบ้าน 14 วัน พร้อมกับขอให้ลงชื่อในเอกสารยินยอมในการกักตัว  แต่บุคคลดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมฝ่าฝืน ดื้อดึง ไม่รับฟัง ไม่ยอมเซ็นเอกสารใดๆ    ต่อมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.ปากปวน  ได้แจ้งมายังตน   ตนจึงมอบหมายให้ปลัดอำเภอร่วมกับคณะทำงานหมู่บ้านไปชี้แจง และทำความเข้าใจแก่บุคคลดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ยินยอมหรือให้ความร่วมมือปฏิบัติตามแนะนำของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

 

ทางอำเภอวังสะพุงพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า ตามประกาศจังหวัดเลยให้ดำเนินการกับทุกรายไม่ว่าจะเป็นใครใหญ่มาจากไหนไม่เลือกปฏิบัติโดยเด็ดขาด ยกเว้นเฉพาะบุคคลตามข้อยกเว้นในประกาศเท่านั้น      บุคคลดังกล่าวรายนี้จึงมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศจังหวัดเลย ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564 จึงได้แจ้งความดำเนินคดีแก่บุคคลดังกล่าว  ซึ่งระบุเป็นความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ทั้งนี้ คลิปวิดีโอขณะปลัดอำเภอและคณะเข้าไปพูดคุยขอความร่วมมือกับหญิงรายดังกล่าว มีการพูดจากับเจ้าหน้าด้วยอารมณ์โมโห ชี้หน้าด่าทอปลัดอำเภอว่าบุกรุก  ไม่ยอมทำตามคำสั่งใดๆทั้งสิ้น เพราะการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นความผิดพลาดของรัฐบาล  พร้อมบอกว่าให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาหาเลย  และจะเรียกผู้สื่อข่าวมาด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าหญิงคนดังกล่าว มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ ดูแลด้านปฏิบัติการออกอากาศ และเป็นคณะกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร

สำหรับประกาศจังหวัดเลยที่ออกมาช่วงการระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด -19  มีนายชัยธวัช  เนียมศิริ  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเลยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 34  และมาตรา 35  แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558  และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 24) ลงวันที่  19  มิถุนายน  2564  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดเลย ตามมติที่ประชุมครั้งที่   42/2564  และคณะกรรมการศูนย์บริหารราชการฉุกเฉินการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  จังหวัดเลย ครั้งที่  3/2564   เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564    หากผู้ใดฝ้าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม เป็นความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9   แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ถูกเฉิน พ.ศ 2548  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี  หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

โดย - บุญชู ศรีไตรภพ

logoline