นายโจนาธาน คัง ผู้จัดการ เสียวหมี่ ประเทศไทย กล่าวว่า ขอบคุณเสียวหมี่แฟน, ลูกค้า, พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และผู้สนับสนุนที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของแบรนด์สมาร์ทโฟนในประเทศไทย
ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคชาวไทยมีให้แบรนด์เสียวหมี่ โดยเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาในทุกๆ ด้านต่อไป ซึ่งนับตั้งแต่เสียวหมี่วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมรุ่นแรก คือสมาร์ทโฟนตระกูล Mi 10
.
เสียวหมี่ ลงทุนด้านที่สำคัญหลายด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีกล้อง หน้าจอ ระบบชาร์จ กระบวนการผลิตแบบอัจฉริยะ และอื่นๆ อีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังลงทุนอีกหลากหลายด้านเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดระดับพรีเมียมด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำหน้าสู่มือของผู้บริโภค และเป็นผู้กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน"
สำหรับ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก พบว่า บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำอย่าง Canalys, IDC, Strategy Analytics และ Counterpoint ได้เขียนรายงานไว้ ดังนี้
เสียวหมี่ ถูกจัดอันดับอยู่ในรายชื่อฟอร์จูนโกลบอล 500 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยในปีนี้เสียวหมี่อยู่ในอันดับที่ 338 ซึ่งก้าวขึ้นมาจากอันดับที่ 422 ในปีก่อนหน้าถึง 84 อันดับ และการเติบโตนี้ยังส่งผลให้เสียวหมี่เป็นบริษัทในรายชื่อฟอร์จูน 500 ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในหมวดหมู่อินเทอร์เน็ตและการค้าปลีกอีกด้วย
“หากเปรียบเทียบกับความสำเร็จที่ผ่าน ๆ มา ผมมุ่งเน้นไปยังการเติบโตทางด้านศักยภาพของพวกเรามากขึ้น เสียวหมี่ยังคงเป็นบริษัทที่ใหม่มากแต่ก็เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจมากมาย ผมอยากที่จะขอบคุณแฟน ๆ ของเสียวหมี่ทั่วโลกอย่างใจจริง เพราะแรงสนับสนุนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของพวกเขาที่ทำให้เสียวหมี่ของเรามีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังเสมอมา ผมคิดว่านี่ยังไม่ถึงขีดจำกัดของเสียวหมี่และผมมั่นใจว่าผู้คนจะต้องได้เห็นเสียวหมี่ในรูปแบบที่ทั้งแข็งแรงและมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต และเราจะต้องไปถึงสถิติที่โดดเด่นกว่าเดิมบนฟอร์จูน โกลบอลในปีหน้าอย่างแน่นอน” เหลย จุน ผู้ก่อตั้ง ประธาน และผู้บริหารสูงสุดของเสียวหมี่ กล่าว