ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 พ.ต.ท.สุมนชาย จำนงนิจ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แจ้งว่ามีพลเมืองดีทราบชื่อภายหลังคือ นางสายฝน พูลอ่อน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 บ้านโนนตาล หมู่ 3 ตำบลฝั่งแดง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็น อาสาจราจร(ญ) สังกัดกองร้อยน้ำหวาน สภ.นากลาง พร้อมกับนางละเอียด ชามโป๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 17 ต.ฝั่งแดง อ.นากลาง เพื่อนบ้านเก็บกระเป๋าเอกสาร ตกอยู่กลางถนนสาธารณะเส้นทางไปวัดป่าภูผายาว-บ้านหนองด่าน ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ขณะเดินทางกลับจากไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดตนเอง
โดยในเบื้องต้นได้เปิดดูในกระเป๋าถือมีเอกสารสำคัญทางธนาคาร สมุดเกษตรกร และต้องตกใจเมื่อภายในกระเป๋ามีสร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 5 บาท จำนวน 1 เส้นอยู่ในกระเป๋าเอกสาร พร้อมมีบัตรประจำตัวเป็นของนายจันทร์สี ศรีภูธร อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จึงเดินทางมา สภ.นากลาง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และในเวลาต่อมา ร.ต.อ.สงกรานต์ คะเณสุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.นากลาง ได้ประสานกำนันตำบลอุทัยสวรรค์ ให้ ผญบ.แจ้งเจ้าตัวมาแสดงตนเพื่อขอรับเอกสารและของมีค่าคืน ต่อมา นายจันทร์สี ศรีภูธร เจ้าของกระเป๋าเอกสารได้แจ้งพนักงานสอบสวนเวร สภ.นากลาง พร้อมกล่าวขอบคุณพลเมืองดีที่เก็บกระเป๋าได้และนำมาโรงพักเพื่อส่งคืนเจ้าของ นายจันทร์สีฯได้มอบหมายให้บุตรชายมารับเอกสารพร้อมของมีค่าคืนแทน พร้อมสินน้ำใจตอบแทนคนเก็บได้ โดยมี นางละเอียดฯผญบ.เป็นสักขีพยาน
ในขณะที่นางสายฝนฯอส.จร.(ญ)กองร้อยน้ำหวาน สภ.นากลาง กล่าวความรู้สึกว่าจริง ๆ แล้ว เห็นใจและเข้าใจเขา หากเราทำของหาย โดยเฉพาะทรัพย์สินที่มีค่าคงต้องเดือดร้อนอย่างมาก คนเป็นเจ้าของจะมีความทุกข์ ความกังวลขนาดไหน และในใจตนเองมุ่งมั่นทำความดี เสียสละไม่เคยคิดจะเอาคนอื่นมาเป็นของตนเอง ยิ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดด้วยไปทำบุญที่วัดมาหวังสร้างบุญบารมีให้เกิดขึ้นกับตนเอง อีกทั้งยังอยากทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม และอยากให้ทุกคนพ้นจากความทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงยุคข้าวยาก หมากแพง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 นางสายฝนฯกล่าว
ข่าว สุรศักดิ์ เครือคำ