เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยชาวบ้านสุขเกษม ม.14 ต.คันไร่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี จำนวน 7 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารของ สปป.ลาว จับกุมตัว ขณะเข้าไปเก็บเห็ดป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยวังลม ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร ซึ่งอยู่ติดกับแนวตะเข็บชายแดนไทย - สปป.ลาว พร้อมถูกตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
“แต่ประเด็นที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจคือ กรณีที่มีรายงานข่าวว่าคนไทยทั้ง 7 คน ที่ถูกจับกุม จะได้รับการฉีดโควิด-19 ชนิด mRNA จากทางการลาว หลังกักตัวครบ 14 วัน ตาม พ.ร.ก. ควบคุมโรค ก่อนส่งตัวกลับประเทศไทย”
“จนตามมาด้วยมุกตลกเชิงเสียดสีภาครัฐ ด้วยการชักชวนกันไป “เก็บเห็ด” ที่ชายแดน สปป.ลาว เพื่อให้ถูกจับกุมและได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA บ้าง เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้ ไทยเพิ่งได้รับการบริจาคมาจากสหรัฐฯ และจะเริ่มฉีดเข้าแขนกลุ่มเป้าหมายเข็มแรก 9 ส.ค.นี้ ขณะที่ประชาชนทั่วไปยังไม่มีสิทธิ์ได้รับ”
“และคำถามว่า ทำไม สปป.ลาว จึงฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ให้ผู้ที่มาจากประเทศไทย และไม่มีการดำเนินคดีฐานลักลอบเข้าประเทศ แต่กลับแค่กักตัวแล้วส่งกลับ”
"หากจำกันได้ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เคยเกิดกรณี 2 หนุ่มไทยกับสาวลาว ลักลอบเข้าออกประเทศทั้งที่รู้ว่าติดโควิด-19 จนนำไปสู่การแพร่ระบาดใน สปป.ลาว และการดำเนินคดี ขณะที่กรณีของ 7 ชาวบ้าน ที่เข้าไปเก็บเห็ดนั้น นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สาเหตุที่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะทางการไทยช่วยประสานไว้ และการเข้าสู่ สปป.ลาว ไม่ได้มีลักษณะจงใจลักลอบเข้าเมือง จึงถือเป็นความโชคดีในโชคร้าย ที่ชาวบ้านทั้ง 7 คนนี้ จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเชอร์ หรือ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในลาวทั้งหมด เพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ก่อน ถูกนำตัวส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของ สปป.ลาว ประจำด่านสากลวังเตา เมืองโพนทอง ซึ่งอยู่ตรง ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ของประเทศไทย เพื่อผลักดันคนทั้งหมดกลับประเทศไทยตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศต่อไป"
"อีกทั้งสาธารณสุขของ สปป.ลาว ที่มีนโยบายฉีดวัคซีนให้แรงงานลาวทุกคนที่กลับจากไทย หลังกักตัวครบ 14 วัน อาจฉีดวัคซีน J&J แบบเข็มเดียว ด้วย ซึ่งกรณีทั้ง 7 คน ก็อาจเข้าข่ายเดียวกันเพราะมาจากประเทศไทย”
“สำหรับข้อมูลการวัคซีน-19 ใน สปป.ลาว นั้น สปป.ลาว เป็นในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เข้าโครงการโคแวกซ์ และได้รับวัคซีนโควิด-19 จาก โคแวกซ์ แล้ว 3 ยี่ห้อ ทำให้ปัจจุบัน สปป.ลาว มีวัคซีน-19 ในมือกว่า 3 ล้านโดส โดยตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ 50% ของประชากรลาวทั้งหมด 7.6 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนใน สปป.ลาว ประกอบด้วย"
- แอสตร้าเซเนก้า 132,000 โดส (โครงการโคแวกซ์)
-ไฟเซอร์ จำนวน 101,000 โดส (โครงการโคแวกซ์)
- จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จำนวน 1,008,000 โดส (สหรัฐช่วยเหลือผ่านโคแวกซ์)
- ซิโนฟาร์ม จำนวน 1,900,000 โดส (รัฐบาลจีนช่วยเหลือ)
- สปุตนิก วี จำนวน 5,000 โดส (รัฐบาลรัสเซียช่วยเหลือ)
ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีน-19 ของ สปป. ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา สปป.ลาว ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 1,895,038 คน ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว 832,673 หรือคิดเป็น 11.7% ของประชากร”
"ขณะที่ข้อมูลการฉีดวัคซีน-19 ของประเทศไทยล่าสุดจากหมอพร้อม เมื่อวันที่ 2 ส.ค. เวลา 23.00 น. มีประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกแล้ว 14,235,678 คน หรือ 21.76 % ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มสอง 3,999,268 คน หรือ 6.11 % และได้รับการฉีดวัคซีนเข็มสาม 126,030 คน หรือ 0.19 %"
และมีวัคซีนโควิด-19 ที่ อย. ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนโควิด-19 แล้ว จำนวน 6 รายการ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับที่ทางองค์การอนามัยโลกรับรอง ได้แก่
-แอสตราเซเนกา
-โคโรนาแวค (ซิโนแวค)
-จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
-โมเดอร์นา
-ซิโนฟาร์ม
-โคเมอร์เนตีของไฟเซอร์