17 พฤษภาคม 2564 ที่หอประชุมอำเภอเมืองขอนแก่น นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุม การดำเนินงานให้บริการวัคซีนโควิด-19 โดยได้หารือร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยโรงพยาบาลทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสิรินธร และโรงพยาบาลค่ายศรีพัชรินทร เพื่อหารือศักยภาพในการรับประชาชนได้กี่คนต่อวันในการฉีดวัคซีน เพื่อจัดให้ถึงประชาชนอย่างรวดเร็วและให้ประชาชนเดินทางอย่างสะดวกที่สุด
นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวว่า นอกจากการหารือโรงพยาบาลทั้ง 4 แห่งซึ่งมีบุคลากร และพื้นที่ที่ต้องรองรับประชาชนเข้าฉีดวัคซีนแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องมาระดมช่วยกันตั้งแต่ในระดับพื้นที่ หมู่บ้าน ตำบล เทศบาล พร้อมกับซักซ้อมความเข้าใจกัน โดยขอนแก่นจะต้องเชิญชวนประชาชนให้เข้ามาฉีดวัคซีนได้ประมาณ 300,000 คนหลังจากนี้ไปจะต้องมีทีมเคาะประตูบ้าน ทีมประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนและมาฉีดวัคซีนตามเป้าที่วางไว้
ส่วนทางด้านของ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สำหรับจังหวัดขอนแก่นจะเริ่มมีการฉีดวัคซีน ตามแผนเดิมคือวันที่ 7มิถุนายนพร้อมกันทั่วประเทศแต่เนื่องจากว่าได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ในช่วงวันที่1 มิ.ย. จะมีวัคซีนมาประมาณ หนึ่งหมื่นกว่าโดส สามารถฉีดได้ประมาณ 6 พันคน ซึ่งเน้นบุคลากรด่านหน้าที่จะต้องปฏิบัติงานในการที่จะให้บริการฉีดวัคซีน ให้ประชาชน
ส่วนในช่วงระหว่าง วันที่ 1 มิถุนายน ก่อนถึงวันที่ 7 มิถุนายน ก็จะมีวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า เข้ามาประมาณ 80,000 โดส ซึ่งก็จะมีการจัดสรรรวมถึงได้มีการทำแผน เพื่อที่จะรับวัคซีนในช่วง 3 เดือนนี้ จะสามารถฉีดได้ประมาณ 200,000 โดส ต่อเดือน ซึ่งได้มีการวางแผนอยู่ 3 ส่วน ส่วนที่1 คือหากฉีดในปริมาณขั้นต่ำจะสามารถฉีดได้ประมาณ 8,000 โดสต่อวัน ขั้นกลางก็คือประมาณ 6,000 โดสต่อวัน ส่วนขั้นสูงสุดสามารถขยับอยู่ที่ 25,000 โดสต่อวัน
"ในระบบการลงทะเบียนได้มีการวางไว้ 3 ลักษณะ ลักษณะที่ 1 ใช้แอพพลิเคชั่นหมอพร้อม สำหรับคนที่มีสมาร์ทโฟนจึงเห็นตัวเลขเฉพาะของคนที่พร้อมมีสมาร์ทโฟน ส่วนที่ 2 คือ เราได้จองในระบบที่เป็นทั้งการส่งแผนไปและได้มีการดำเนินการในส่วนของการให้ อสม. เดินสำรวจ เพราะวันนี้เป็นการฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ ซึ่งจะต้องมีการยืนยันว่าเจ้าตัวมีสิทธิ์และจะใช้สิทธิ์นั้นหรือไม่ ส่วนที่3 คือคนที่นอกเหนือจากกลุ่มนั้น ที่ต้องการประสงค์ฉีด โดยวางสัดส่วนคือลงหมอพร้อมให้โคต้า 30% ส่วนการสำรวจที่เข้าถึงประชาชนให้สัดส่วน 50% และกลุ่มผู้สูงอายุ 7โรคเรื้อรังและบุคคลทั่วไปให้สัดส่วนอยู่ที่ 20% หลังจากให้สัดส่วนแล้วก็ได้มีการกำหนดจุด ในเบื้องต้นมีวางไว้ 33 จุด วางให้อำเภอเมืองซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีผู้ป่วยเยอะ และมีประชากรจำนวนมาก ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ซึ่งจะให้อำเภอเมืองได้มีการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมก่อนทุกอำเภอ โดยจะมีการฉีดวัคซีนในวันที่ 1 มิถุนายน
เฉพาะอำเภอเมือง เปิดไว้ทั้งหมดรวมเซ็นทรัลด้วยประมาณ 9 จุด ส่วนที่เหลือจะมีปฏิทินการฉีดว่าแต่ละวัน แต่ละพื้นที่จะรับได้จำนวนเท่าไหร่หลังจากนั้นจะมีการประชาสัมพันธ์ต่อว่าหากจะมีการวอล์คอิน จะอยู่ที่ลำดับเท่าไหร่ หรือจำนวนที่วอล์คอินสามารถรับได้เท่าไหร่ ส่วนใครที่ มาไม่ทันสามารถลงทะเบียนเติมขึ้นมาได้เพื่อที่จะได้รับสิทธิ์ในการวอล์คอินในวันถัดไป หรือแม้กระทั่งในกรณีที่นำเอาสัดส่วนของ 30% ของแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม ของคนที่ไม่มาเมื่อถึงเวลาในวันนั้น เพื่อไม่ให้วัคซีนตกค้างเรียกว่าบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ก็นำมาฉีดในกลุ่มที่ได้มีการวางแผนซ้ำเสริมขึ้นมา" นพ.สมชายโชติ กล่าว