วันนี้ พลตำรวจตรี ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการกองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ สั่งให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุม นางพัชรี (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี , นายจำนงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และ นายเกรียงไกร (สงวนนาสกุล) อายุ 56 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ในข้อหา "ร่วมฉ้อโกงประชาชนและใช้เอกสารปลอม"
การจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหากลุ่มนี้ที่รู้จักกันดีในชื่อ "แก๊งสาธุ" ซึ่งประกอบไปด้วยนายบุญหลง อายุ 59 ปี ที่จะทำหน้าที่แต่งกายปลอมเป็นพระ แต่ถูกจับกุมไปแล้ว รวมกับนางพัชรี นายจำนงค์ และนายเกรียงไกร จะนำรถกระบะ บนรถมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มีนายบุญหลงที่แต่งกายปลอมเป็นพระ นั่งมาในท้ายรถ ตระเวนวิ่งเรี่ยไร่เงินประชาชนทั่วไปในจ.ภูเก็ต อ้างว่า จะนำเงินที่ได้ไปทำบุญสร้างศาลาการเปรียญ มูลค่า 2 ล้าน ให้กับวัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งก็มีประชาชนหลงเชื่อ ร่วมกันบริจาคเงินให้เป็นจำนวนมาก
ต่อมาได้มีผู้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ จนพบว่า ทางวัดที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้นไม่มีการก่อสร้างแต่อย่างใด และก็ไม่รู้จักกับบุคคลทั้ง 4 คน นี้อีกด้วย ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต จึงเข้าจับกุมตัวนายบุญหลง ซึ่งไม่มีใบสุทธิ และไม่สามารถท่องบทสวดมนต์ใด ๆ ได้เลยในย่ามยังพบเสื้อและกางเกงที่เตรียมไว้เปลี่ยน พร้อมเงินบริจาคอีกส่วนหนึ่ง จึงเข้าจับกุมตัวดำเนินคดี
ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คนที่เหลือนั้นหลบหนีไปได้ พร้อมเงินบริจาค คาดว่าน่าจะมากกว่า 3 แสนบาท จึงขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ และตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในอ.ท่าหลวง และชัยบาดาล จ.ลพบุรี
เบื้องต้นสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเลือกจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะชาวบ้านจะร่วมทำบุญด้วยง่าย เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาเข้าวัดทำบุญ พร้อมกันนี้จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหา ยังพบมีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนอีกหลายคดีด้วย จึงนำตัวส่งสภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีต่อไป