น.ส.พุธคำ คำวัน ผจกฯ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเอง อยู่ที่ร้าน ทองกับน.ส.อาภาภรณ์ มากมูล และ น.ส.นิรนุชธิบำรุง พนักงานขาย ปรากฎว่าหลังเปิดร้านได้ไม่นาน ได้มี ผู้หญิงวัยกลางคนแต่งตัวธรรมดาแบบชาวบ้านๆ อายุ ราว 40 ปี ใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้ามิดชิดได้เข้ามาซื้อทองในร้าน ก่อนจะตกลงซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น สร้อยคอน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น สร้อยคอมือน้ำหนัก5 บาท 1 เส้น และสร้อยคอมือหนัก 3 บาท 1เส้น รวมน้ำหนัก 20 บาท มูลค่า รวม 578,000 บาทโดยโอนเข้าบัญชีผู้จัดการห้างทองสุพัตราเยาวราช สาขาโลตัสแกลง ผ่านทางแอพพลิเคชั่น พร้อมทั้งโชว์สลิปว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีแล้วและ คนร้ายยังได้เซ็นเช็คจำนวนเงิน5แสน 7 หมื่น 8 พันบาท ค้ำประกันไว้
โดยพนักงานไม่คิดว่าจะเป็นคนร้ายและเห็นสลิปการโอนเงิน จึงไม่ได้เอะใจ เอาทองให้ไป ก่อนจะมาทราบว่าเป็นมิจฉาชีพ จึงพยายามติดต่อแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
หลังตรวจสอบหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด และ เช็คที่คนร้ายเซ็นไว้ค้ำประกัน จนสามารถสืบทราบว่า คนร้ายรายนี้คือ น.ส.พิชชาภา ครณรงค์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่86/12 ม.5 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามตัว เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี เพราะถือเป็นภัยสังคม นอกจากนี้ ทางร้านทองสุพัฒตรา เยาวราช ยังประกาศให้รางวัล 100,000 บาท หาก ใครแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ พร้อมประสานร้านทองทุกแห่ง หากมี ใครนำสร้อยคอทองคำที่มีตราอักษร"พ"ตรงตะขอ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ