เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ส.ค. 63 ที่ศาลเจ้าพ่อหลักมือ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เครือข่ายประชาธิปไตยมหาสารคาม จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ สารคามเผด็จการบ่ต้อง ขับไล่รัฐบาลเผด็จการ มีประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมพร้อมรถแห่ขยายเสียง เชิญชวนประชาชนร่วมกันขับไล่รัฐบาลที่บริหารประเทศมานานถึง 6 ปี ซึ่งกิจกรรมในงานมีการปราศรัยถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการบริหารประเทศ พร้อมกับเขียนป้ายแสดงออกถึงความในใจ ที่จะให้รัฐบาลเผด็จการออกไป เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก มีการเลือดตั้งใหม่ และแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 โดยมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด
ก่อนจะมีการอ่านแถลงการณ์เครือข่ายประชาธิปไตย ระบุว่า ด้วยเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่ากติกาสูงสุดในการอยู่ร่วมกันของคนในประเทศคือ รัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ.2560 ซึ่งบัญญัติขึ้นมาโดยการชี้นำของคณะบุคคล ซึ่งคือกลุ่มทหารที่มีแนวคิดในการบริหารการปกครองบ้านเมืองในลักษณะยึดถือความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ และบีบบังคับโดยตรงและโดยอ้อมเพื่อให้มีรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2560 ได้ออกมาใช้บังคับ ซึ่งมีบทบัญญัติบางหมวดบางมาตราที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางประชาธิปไตย และโดยเจตนาที่จะให้พวกตนเองได้รับผลประโยชน์ เพื่อการเข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมืองอย่างไม่ชอบธรรม เมื่อรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติและมีที่มาโดยไม่ชอบธรรมดังกล่าว จึงเกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชนทั่วประเทศอย่างกว้างขวาง ซึ่งได้แสดงออกถึงการไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตลอดจนผลพวงต่าง ๆ ที่ตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ยอมรับรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเครือข่ายประชาธิปไตยมหาสารคาม (คปมค.) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม ที่ยึดถือแนวทางประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ให้มีบทบัญญัติที่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ ยึดโยงประชาชน ล้างอยุติธรรมทั้งปวงและวางหลักการประชาธิปไตย โดยดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชน เพื่อการเลือกตั้งใหม่ ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ประชาชนทุกฝ่ายยอมรับเพื่อมีรัฐสภาใหม่ รัฐบาลใหม่ต่อไป