ศธ.ยก "รร.กรุงเทพคริสเตียน" ต้นแบบคุมโควิด-19

วันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 07.30 น. ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2563 เพื่อประเมินความพร้อมของโรงเรียนเอกชน ต่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ดร.กนกวรรณ พร้อมคณะ ได้ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองบริเวณประตูสาทร และสถานที่ต่างๆของโรงเรียน ประกอบด้วย อาคารเรียน โรงอาหาร และห้องพยาบาล 

จากนั้นได้กล่าวชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนว่า ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และยกให้เป็นต้นแบบโรงเรียนอื่นๆ นำไปปฏิบัติตามสำหรับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เป็นหนึ่งในโรงเรียนเอกชน 4,000 แห่ง ที่มีความท้าทายต่อมาตรการป้องกันโรค เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีจำนวนนักเรียนเกิน 5,000 คน และมีนักเรียนเด็กเล็ก ตั้งแต่ชั้นป.1-ม.6 อีกทั้งยังมีนักเรียนประจำที่อยู่หอพักของโรงเรียน ทำให้โรงเรียนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับครู ผู้ปกครอง และนักเรียน สำหรับมาตรการของโรงเรียนมีดังนี้

1.เปิดให้นักเรียนเข้าประตูผ่านจุดคัดกรองได้ 3 ประตู โดยมีเครื่องสแกนวัดไข้คุณภาพสูง2.หากพบผู้มีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศา จะไม่อนุญาตให้เข้าโรงเรียน3.มีฉากอะคริลิคกั้นโต๊ะอาหาร นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 4.ให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัย และเฟสชิลตลอดเวลาขณะอยู่ในโรงเรียน5.งดกิจกรรมรวมกลุ่ม6.เว้นระยะห่างทุกจุด ทั้งการซื้ออาหาร, ซื้ออุปกรณ์การเรียน, การเงิน, ทะเบียน)7.ห้องน้ำ เว้นโถปัสสาวะในการใช้งาน และทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมง8.ลิฟท์ทุกตัวมีสัญลักษณ์การยืนเข้าใช้จำกัดจำนวนคน9.ห้องประชุม, หอธรรม เว้นระยะห่างการนั่งประชุม10.ห้องเรียน นั่งเรียนห่างกัน และแบ่งจำนวนนักเรียน โดยมาเรียนวันละครึ่งห้อง11.ทำความสะอาดห้องเรียน และลูกบิดประตูทุกชั่วโมง12.ให้นักเรียนกลับบ้านไม่เกิน 17.00 น. 13.ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าไปรับส่งบุตรหลานภายในโรงเรียน เว้นแต่ผู้ปกครองนักเรียน ชั้นป.1 อนุญาตให้รับส่งได้ 6 วันนับตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนส่วนการจัดการเรียนการสอนทุกระดับชั้น นับตั้งเเต่เปิดภาคเรียนวันที่ 1 ก.ค. 2563 จนสิ้นสุดภาคเรียน จัดให้เรียนวันเว้นวัน โดยในระดับชั้นประถมศึกษา นักเรียนจะได้เรียนครบทุกรายวิชาในเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 1 สัปดาห์ในการเรียนปกติ ขณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาให้มาเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน ส่วนที่เหลือให้เรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน

จากการสอบถามความรู้สึกนักเรียนส่วนใหญ่ บอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเรียนหลังจากหยุดไปหลายเดือน และมีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆของโรงเรียน เนื่องจากทางโรงเรียนได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้าถึงแนวทางการปฏิบัติตัวขณะอยู่ในโรงเรียน ส่วนปัญหาที่พบในวันเปิดเทอมวันแรกคือเรื่องรถติด อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนได้ประสานความร่วมมือไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้มาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเวลาเช้าและเลิกเรียนของทุกวัน