svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าสอบสวน กรณีคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี ประกอบธุรกิจต้องห้ามของคนต่างด้าว ขายบ้านจัดสรรหลายโครงการ รวมมูลค่า 240 ล้านบาท ในลักษณะหลอกลวงผู้บริโภค และไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 23 มิถุนายน 2563 พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุลรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูลผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง, นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัยผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 2 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่44/2563 ลงพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับคนต่างด้าวที่มาประกอบธุรกิจขายบ้านจัดสรรหลายโครงการโดยให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี ในลักษณะที่เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคและหลีกเลี่ยงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านจัดสรร



กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายชาวไทย และชาวต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อบ้านโครงการบ้านจัดสรร 5 โครงการ จำนวน 18 ราย ซึ่งมีคนต่างด้าวชาวอังกฤษร่วมกับคนไทยจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นนอมินีเพื่ออำพรางในการประกอบกิจการ แต่แท้จริงแล้วคนต่างด้าวเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการทุกโครงการอันเป็นการประกอบธุรกิจต้องห้ามของคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจคนต่างด้าวพ.ศ.2542 นอกจากนี้ ยังพบพฤติการณ์ของคนต่างด้าวด้วยว่ามีการโฆษณาขายบ้านจัดสรรโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จในลักษณะที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และเอาเปรียบผู้บริโภครวมทั้งมีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องอีกด้วย



DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี



DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้เสียหายชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ซื้อบ้านในโครงการดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีคนต่างด้าวชาวอังกฤษเป็นเจ้าของโครงการ โดยให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี จำนวน5โครงการ คือ (1)โครงการ เคเลนน่า รีสอร์ท วิลล่า หัวหิน (2)โครงการ อลามันดา พูลวิลล่า หัวหิน112 (3)โครงการ อลามันดา เอ็คคลูซีฟ พูลวิลล่า รีสอร์ท หัวหิน ซอย116 (4)โครงการ ออร์คิด วิลล่า และ (5)โครงการ ปาล์ม การ์เด้น โดยทั้ง5โครงการ จดทะเบียนประกอบกิจการเป็นนิติบุคคล ประกอบด้วย บริษัท เคลานนา วิลล่า หัวหิน จำกัด,บริษัท วอเตอร์ฟอลส์ วิลล่า จำกัด,บริษัท เอเชียพร็อพเพอร์ตี้ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด,บริษัท เพนโรส เฮาส์ จำกัด และบริษัท จี.เอ.เทค จำกัด โดยมีพฤติการณ์ กล่าวคือ คนต่างด้าวได้ร่วมกับคนไทย หลอกลวงผู้เสียหาย โดยการโฆษณาขายบ้านจัดสรร เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าทำสัญญากับโครงการ ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามสัญญาที่ได้โฆษณาไว้ และก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา จึงไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ตามกำหนด นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ในการดำเนินโครงการดังกล่าว มิได้มีการขออนุญาตจัดสรร และการก่อสร้างแต่อย่างใด ตลอดจนมีปัญหาด้านสาธารณูปโภค ได้แก่ ไม่สามารถขอเลขที่บ้านได้ เป็นเหตุให้กระทบกับการขอใช้น้ำประปาและไฟฟ้า โดยทั้ง5โครงการ พบข้อมูลการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่มิได้นำรายได้มาเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร อันมีลักษณะหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จำนวนมาก



ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายการจัดสรรที่ดิน และการก่อสร้าง โดยผลักภาระให้ผู้บริโภคไปดำเนินการเอง จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญา และเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งนี้ การกระทำของคนต่างด้าว ที่ให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินีในการประกอบธุรกิจต้องห้ามของคนต่างด้าว ตามบัญชี1 (9)การค้าที่ดิน และบัญชี3 (10)การก่อสร้าง ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542โดยปรากฏจากหลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สัญญาการก่อสร้าง และข้อมูลทางการเงิน คิดเป็นสินทรัพย์รวมกันไม่น้อยกว่า240ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีสินทรัพย์รวมเกิน100ล้านบาท อันเข้าข่ายลักษณะที่เป็นคดีพิเศษ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดดังกล่าว รวมทั้งความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการคุ้มครองผู้เสียหาย และป้องกันไม่ให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จำนวนมาก ตลอดจนจะต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุนคนต่างด้าวดังกล่าวว่า มีการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินด้วยหรือไม่ ต่อไป



DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี



DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี

DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี

กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกรณีการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542อย่างเด็ดขาดและครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อคุ้มครองธุรกิจที่คนไทยไม่พร้อมที่จะแข่งขันกับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งได้ใช้วิธีการให้คนต่างด้าวกลุ่มนี้เข้าสวมสิทธิเป็นคนไทยโดยมิชอบ แล้วเข้าไปถือหุ้นแทนในลักษณะนอมินีว่าเป็นธุรกิจของคนไทย รวมถึงการตรวจสอบที่มาของแหล่งเงินทุนของธุรกิจของคนต่างด้าวดังกล่าวว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ หากประชาชน มีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดดังกล่าว สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ที่สายด่วนDSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ


DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี




DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี




DSI ลง จ.ประจวบฯ สอบสวนคนต่างด้าวให้นิติบุคคลไทยเป็นนอมินี