โดยนายชุมวิทย์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเห็นหลายแห่งมีการตั้งตู้แบ่งปัน ตู้ปันสุข ตู้ปันรัก โดยนำเครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆ เช่น น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร มาใส่ตู้เพื่อให้ประชาชนที่กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถหยิบกลับไปบริโภคได้ฟรีๆ เป็นการแบ่งเบาภาระในเรื่องค่าครองชีพแล้ว ตนคิดว่าตู้แบ่งปันตั้งอยู่กับที่ น่าจะมีตู้แบ่งปันที่สามารถเคลื่อนที่ไปตามชุมชนต่างๆ บ้าง จึงใช้รถยนต์ของตนเป็นตู้แบ่งปัน ใช้ชื่อว่า "รถปันสุข"
จากนั้นก็ใช้เงินส่วนตัวไปซื้อขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อต่างๆ มาใช้เทปใส 3 M ติดรอบตัวรถด้านนอก แล้วขับรถไปตามชุมชนต่างๆ ซึ่งพ่อแม่ญาติพี่น้องก็ให้การสนับสนุนและเห็นด้วยที่ตนทำเช่นนี้ ทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ หรือหากขับรถจาก อ.ท่าแซะ เข้ามาทำธุระในตัวเมืองชุมพร ตนคิดจะทำเช่นนี้ไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย "รถปันสุขคันนี้ ใช้เงินในการซื้อขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครั้งละ 1,500 บาท เพิ่งเริ่มทำเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 พ.ค.2563) จึงใช้เงินไปแล้วประมาณ 3,000 บาท
หลังจากขับรถตระเวนไปตามชุมชนต่างๆ ทั้งใน อ.ท่าแซะ และ อ.เมืองชุมพร ผมจะประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงที่ติดตั้งไว้ในรถ เชิญชวนให้ชาวบ้านมาหยิบขนมขบเคี้ยวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปรับประทานได้ฟรี มีชาวบ้านให้ความสนใจเข้ามาหยิบของไป พร้อมทั้งขอถ่ายภาพเซลฟี่กับผมด้วย บางคนจะขอแค่ถ่ายภาพด้วยแต่ไม่รับของ
ผมก็ขอให้ช่วยหยิบไปสักซองก็ยังดี นอกจากจากทำรถปันสุขแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไปแจกให้ชาวบ้านตามชุมชนต่างๆ มาเป็นระยะ ถึงแม้ว่าครอบครัวของผมจะไม่มีฐานะร่ำรวย แต่การได้ทำเช่นนี้ก็รู้สึกอิ่มใจ ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และชาวบ้านที่เดินเข้ามาหยิบของที่รถแล้ว ยิ่งรู้สึกดีใจมากๆ ครับ" นายชุมวิชย์ กล่าว