สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บริษัทอินเทอร์เนชันแนล แอร์ไลนส์ กรุ๊ป (IAG) บริษัทแม่ของสายการบิน "บริติชแอร์เวย์"ประกาศเตรียมปรับลดจำนวนพนักงานสายการบินมากถึง 12,000 ตำแหน่ง นับเป็นหนึ่งในสายการบินยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19โดย IAG เปิดเผยว่า รายรับในไตรมาสที่ 1/2020 อยู่ที่ 4,600 ล้านยูโร ลดลง 13% จากปีก่อนหน้า โดยบริษัทขาดทุนสูงถึง 535 ล้านยูโร และ IAG ยังคาดการณ์ว่า สถานการณ์ในไตรมาสที่ 2/2020 จะเลวร้ายลงกว่าไตรมาสนี้ และยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการฟื้นตัวของบริษัทให้มีจำนวนผู้ใช้บริการเทียบเท่าปี 2019ทั้งนี้ IAG ได้เตรียมส่งหนังสือชี้แจ้งถึงสหภาพแรงงาน เพื่ออธิบายการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของบริษัท ที่จะส่งผลกระทบต่อพนักงานจำนวนมาก และบริษัทจำเป็นต้องเลิกจากพนักงานมากกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ด้าน นายอเล็กซ์ ครูซ ซีอีโอของบริติชแอร์เวย์ระบุในจดหมายที่ส่งถึงพนักงานว่า "สิ่งที่เรากำลังเผชิญหน้าในฐานะสายการบินก็คือ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ความปกติ อีกต่อไป เมื่อวานนี้มีเครื่องบินของบริติชแอร์เวย์ขึ้นบินจากท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์เพียงไม่กี่ลำ จากปกติที่เราทำการบินมากกว่า 300 ลำ
"สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุว่า ขณะนี้สายการบินต่าง ๆ กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้รายรับของสายการบินต่าง ๆ ลดลงมากถึง 55% หรือราว 314,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และพนักงานสายการบินในยุโรปมีความเสี่ยงตกงานมากถึง 6.7 ล้านคน เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สายการบินบริติชแอร์เวย์ยังได้ขอให้พนักงานหยุดงานชั่วคราวรวมประมาณ 30,000 คน โดยรับค่าจ้าง 80% ของเงินเดือนจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. ซึ่งรัฐบาลอังกฤษช่วยอุดหนุนค่าจ้างพนักงานรายละ 2,500 ปอนด์/คน เพื่อป้องกันการเลิกจ้างแต่นายครูซระบุว่า มาตรการช่วยเหลือยังไม่เพียงต่อการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน จากสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของอุตสาหกรรมการบินในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา "บริติชแอร์เวย์ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และเราไม่สามารถคาดหวังได้ว่าประชาชนผู้เสียภาษีจะต้องมาอุดหนุนเงินเดือนให้เราอย่างไม่มีกำหนด เงินกู้ยืมในขณะนี้ก็ไม่สามารถรับมือกับความท้าทายระยะยาวที่เราต้องเผชิญได้"
"บริติชแอร์เวย์จะต้องปรับตัว ความท้าทายครั้งนี้ต้องการการเปลี่ยนแปลงระดับรากฐาน เพื่อให้เราอยู่จุดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถแข่งขันได้ ไม่เพียงแต่จะสามารถรับมือกับโควิด-19 ได้เท่านั้น แต่ต้องสามารถรับมือกับเหตุการณ์ข้างหน้า ทั้งความต้องการของผู้ใช้บริการที่ลดลง วิกฤตทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์อื่น ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อเราด้วย" นายครูซระบุ