ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และได้มีคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๔/๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้กํากับการ ปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ คําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๗/๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มเติม ลงวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ และคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔/๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ แล้ว นั้น
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้สามารถยุติลงได้ อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๗ วรรคสามและวรรคสี่ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายกรัฐมนตรีจึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
๑. ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็น (๖/๑) ของข้อ ๓ ของคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๔/๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้กํากับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉิน ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ "(๖/๑) ให้ผู้อํานวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา"
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปสั่ง ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี