svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

นักวิจัยเสนอแผนปลดล็อกดาวน์อังกฤษ

นักวิจัยอังกฤษเสนอปลดล็อกดาวน์ของอังกฤษ กรณีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เสนอปลายเม.ย.เริ่มเปิดร้านค้าขนาดเล็ก 4 พ.ค.เริ่มเปิดโรงเรียน 1 มิ.ย. เปิดสนามบินระหว่างประเทศ ด้านนักวิชาการหลายคนอ้างอาจจะเร็วเกินไป

เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ศ.ดร. นายแพทย์ สิริฤกษ์ทรงศิวิไล กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)เปิดเผยผลการศึกษาว่า การควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วยหลายระยะโดยในระยะแรกจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะจากภายนอกประเทศให้นานที่สุด(Control Phase)  และเมื่อเริ่มมีการติดเชื้อในประเทศแล้วก็ต้องควบคุมและสอบสวนโรคในผู้สัมผัสเชื้อเพื่อตัดวงจรการระบาด(Delay Phase)  ระยะต่อมาเมื่อมีการแพร่ของเชื้อในชุมชนในวงกว้างขึ้นก็จะต้องชะลอไม่ให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อให้ระบบการแพทย์และโรงพยาบาลมีเพียงพอที่จะดูแลผู้ป่วยได้(Mitigation Phase ) ประเทศส่วนใหญ่มักเลือกใช้วิธีปิดประเทศปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ ให้คนอยู่บ้าน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Socialdistancing) และงดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจโดยเฉพาะการปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้างสรรสินค้า บริษัท ห้างร้านต่างๆทำให้การระบาดช้าลง รุนแรงลดลง จนสามารถดูแลผู้ป่วยได้ มีผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงมีผู้เสียชีวิตลดลงในระดับที่ควบคุมได้ซึ่งความรุนแรงและความรวดเร็วของการระบาดแตกต่างกันได้ในแต่ละประเทศ  หลังจากนั้นจะเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูสภาพ (RecoveryPhase ) โดยจะเริ่มทะยอยผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมเริ่มกลับมาทำงานซึ่งระยะเวลาและรายละเอียดในการดำเนินการนั้นแตกต่างกันในแต่ละประเทศทั้งนี้เนื่องจากยังไม่มียารักษาไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงและยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิดจึงยังต้องมีมาตรการควบคุมดูแลอีกต่อไปอีกเป็นเวลานาน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้างระลอกใหม่อีกโดยเฉพาะการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Social distancing หรือPhysical distancing) รวมทั้งการตรวจคัดกรองและค้นหาผู้ติดเชื้อใหม่โดยวิธีการต่างๆ

เหตุการณ์การระบาดในอู่ฮั่นซึ่งได้เกิดความสูญเสียอย่างมากนั้นในปัจจุบันนี้สามารถควบคุมได้และทางการจีนได้เริ่มเปิดเมืองในสัปดาห์นี้หลังจากที่ปิดสนิทมาสองเดือนกว่าเป็นการสิ้นสุดการล็อกดาวน์นานถึง 76 วัน แต่หลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกายังเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายอยู่ต้องปิดประเทศ ปิดเมือง คล้ายกับเหตุการณ์ที่จีน มาตรการล็อกดาวน์ที่นำมาใช้นี้ได้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้คนว่างงานและเสียรายได้ระบบเศรษฐกิจของโลกและของประเทศถดถอยอย่างรุนแรงในทุกภูมิภาคยิ่งต้องดำเนินการล็อกดาวน์เป็นเวลานานก็จะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมรุนแรงขึ้นแต่ถ้าผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไปก็จะเกิดการกลับมาระบาดระลอกใหม่หรือมีความสูญเสียยาวนาน อย่างไรก็ตามนักวิจัยส่วนหนึ่งก็เริ่มเตรียมการวางแผนหาทางออกจากสถานการณ์นี้แล้ว

สำหรับประเทศอังกฤษ ศาสตราจารย์นายแพทย์ Karol Sikora อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคมะเร็งที่เคมบริดจ์อดีตผู้บริหารขององค์การอนามัยโลกและที่ปรึกษาของรัฐบาลอังกฤษ ให้ความเห็นว่าถึงแม้ในขณะนี้อังกฤษกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมากรัฐบาลได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์และเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมากนั้นแต่ในที่สุดแล้วก็จำเป็นต้องวางแผนที่จะกลับมาสู่สภาวะที่เศรษฐกิจและสังคมจะต้องดำเนินต่อไป

อังกฤษและสหราชอาณาจักร ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 23มีนาคม 2563 ซึ่งได้ดูแลอย่างเข้มงวดมากแต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา 2-4สัปดาห์กว่าที่มาตรการนี้จะเริ่มเห็นผล โดยรัฐบาลได้กำหนดว่าจะประเมินผลการดำเนินงาน3 สัปดาห์หลังที่เริ่มใช้มาตรการเข้มงวด ทั้งนี้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใช้คำนวณการระบาดได้บ่งว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในอังกฤษจะเริ่มคงที่และช้าลงโดยโรงพยาบาลต่างๆจะรับภาระหนักมากในช่วง 7-10 วันข้างหน้าจากนั้นจะเริ่มทรงตัวและลดความรุนแรงลง นักวิชาการส่วนใหญ่ประเมินว่าคงจะต้องใช้มาตรการเข้มงวดนี้ต่อไปอย่างน้อยถึงเดือนพฤษภาคมโดยการผ่อนคลายมาตรการต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ละขั้นอาจต้องติดตามนาน 2-3สัปดาห์จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง แล้วจึงผ่อนคลายมาตรการขั้นต่อไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ Karol Sikora ได้เสนอแผนการ 4 ขั้นในการทยอยปลดสภาพล็อกดาวน์โดยเสนอช่วงเวลา ดังนี้


-27 เมษายน เริ่มเปิดร้านค้าขนาดเล็กและกิจการขนาดเล็กที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ให้คนหนุ่มสาวเริ่มออกจากบ้านแต่ต้องดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงอย่างเข้มงวดมากอย่างน้อยจนถึงเดือนมิถุนายน

-4 พฤษภาคม เริ่มเปิดโรงเรียน ให้เด็กนักเรียนกลับมาเรียนหนังสือ


-18 พฤษภาคม เปิดกิจการและธุรกิจส่วนที่เหลือ เปิดร้านอาหาร ผับระบบขนส่งมวลชน เปิดมหาวิทยาลัย


-1 มิถุนายน เปิดสนามบินและให้มีการเดินทางระหว่างประเทศกลับสู่สภาพปกติ


โดยเสนอว่าต้องติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลารวมทั้งเร่งตรวจหาการติดเชื้อและตรวจทางภูมิคุ้มกันให้ทราบว่าใครติดเชื้อบ้างและใครมีภูมิคุ้มกันแล้ว

ทั้งนี้นักวิชาการจำนวนมาก ให้ความเห็นว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกำหนดเวลาในการทยอยผ่อนคลายมาตรการต่างๆเหล่านี้ลงรวมทั้งร่างกำหนดเวลาการผ่อนคลายมาตรการตามที่เสนอนี้อาจจะเร็วเกินไปซึ่งจะทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ได้คงต้องรอดูต่อไปว่าแผนและกำหนดการนี้จะเป็นจริงหรือไม่