ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ประเมินสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19" ว่า หากนับตั้งแต่วันที่23 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการคาดการณ์ในเวลานั้นถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุด หากไม่มีการดำเนินการทำอะไรเลย อัตราผู้ป่วยอาจสูงถึงประมาณ 10,000 ราย แต่หากเรามีมาตรการที่เข้มข้น จะทำให้อัตราการเพิ่มของผู้ป่วยอยู่ที่ร้อยละ 20 และจะทำให้ระบบการดูแลสุขภาพต่างๆเพียงพอและควบคุมได้ ทว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย คือ วันที่มีการเคลื่อยย้ายของประชาชนจำนวนหนึ่งออกจากกรุงเทพมหานคร จึงทำให้สัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ในอัตราเท่าๆกับ กรุงเทพมหานคร 50:50
แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ภาครัฐที่ได้มีมาตรการต่างๆออกมาเป็นช่วงๆ จากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชน พบว่าขณะนี้มาตรการต่างๆเริ่มส่งผล เห็นได้จากตัวเลขของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยตอนนี้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเทศไทยถือว่าอยู่ตรงกลางของกลุ่มประเทศที่ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้ และกลุ่มที่ควบคุมไม่ได้จากทั่วโลก โดยอยู่อันดับ 2 ในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียน
สถานการณ์ตอนนี้ จึงถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็อย่า ชะล่าใจ แนวโน้มผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มสูงได้ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐร้องขอ วันนี้ถือว่าเราเป็นยังคงปริ่มน้ำ และค่อนไปทางขาดแคลนด้านสาธารณสุข