นอกจากนี้ 'นายคณพศ' ผู้ขับขี่รถแกร็บแท็กซี่ยังโดนข้อหาใช้รถยนต์ผิดประเภทจากที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทั้งให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 'นายคณพศ' ซึ่งเป็นคนขับแกร็บแท็กซี่ ถูกผู้เรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวแจ้งข้อกล่าวหาใช้รถผิดประเภท และพยายามจะจับกุมดำเนินคดี ทำให้มีปากเสียงกัน
ก่อนที่ในเวลาต่อมา 'นายคณพศ' ได้แจ้งเรื่องให้ 'นายเกรียงไกร ไทยอ่อน' รับทราบ และได้นำมาโพสต์ข้อความในกลุ่มเพจฯ ของนายเกรียงไกร ซึ่งเมื่อโพสต์ถูกแชร์ไป มีข้อความที่เข้ามาด่าทอการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก และเป็นคำหยาบคาย
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ดำเนินคดีกับทั้งคู่ ข้อกล่าวหากระทำการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาด้วยตัวอักษร ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 โดยศาลจังหวัดนครราชสีมาพิจารณาพบว่า 'นายเกรียงไกร' มีความผิดจริงพิพากษาจำคุก 1 ปี ขณะที่ 'นายเกรียงไกร' มีคดีที่ศาลตัดสินแล้วรอลงอาญาอีก 2 คดี จึงนำโทษมารวมกันเป็น 1 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามภายหลังรับทราบคำตัดสิน นายเกียงไกร น้อมรับคำสั่งศาลพร้อมยื่นขอประกันตัว ทางศาลอนุมัติให้ปล่อยตัวชั่วคราว ขณะที่นายคณพศปรับ 4,000 บาท
ในเวลาต่อมา เมื่อไปดูความเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เกรียงไกร ไทยอ่อน มีการไลฟ์สด ซึ่งนายเกรียงไกร นั้นได้น้อมรับคำพิพากษาของศาล และประกาศพร้อมสู้คดี