นางนิธินันท์ อัศวทร Thailand Country Head บริษัท เอ็มเซเว่นทีน เซอร์วิสเซส ไทยแลนด์ กล่าวว่า "สำหรับที่มาของตัวเลข "17" มาจากวลีที่พ้องเสียงกันในภาษาจีนแปลว่า "การอยู่ร่วมกัน" (Together) ซึ่งจะเหมือนกับธุรกิจของเรา ที่ไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ หรือเวลาใด "Social Entertainment" และ "Social Media" ก็สามารถเชื่อมโยงทุกคนให้เกิดการสื่อสารและอยู่ร่วมกันได้เสมอ โดยในปัจจุบันเทรนด์การซื้อขายสินค้าผ่านการแชทออนไลน์ หรือ "ซี คอมเมิร์ซ" (Conversational Commerce) กำลังเป็นเทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์ของคนยุคใหม่ จากผลสำรวจของเฟซบุ๊กประเทศไทย พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีใช้สื่อโซเชียลมีเดีย และมีนักช้อปผ่านช่องทางซีคอมเมิร์ซสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีมูลค่าสูงถึง 4.8 พันล้านเหรียญ และยังมีรูปแบบการซื้อขายสินค้าที่แตกแขนงออกมาจาก "ซี คอมเมิร์ซ" อีก ที่กำลังถือว่ามาแรงนั่นก็คือ รูปแบบของ "ไลฟ์ คอมเมิร์ซ" (Live-Commerce) คือการเชื่อมโยงระหว่าง โซเชียลมีเดีย, อีคอมเมิร์ซ และ สตรีมมิ่ง แพลตฟอร์ม เข้าไว้ด้วยกัน โดยผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตอบโต้สื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถเพิ่มยอดการขายให้กับผู้ขายได้มากขึ้น และบริษัทฯ มองเห็นถึงโอกาสในการทำตลาด "ไลฟ์ คอมเมิร์ซ" ในประเทศไทยให้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการรายใด ประกาศตัวทำตลาดนี้อย่างชัดเจน
บริษัท เอ็มเซเว่นทีน เซอร์วิสเซส ไทยแลนด์ จึงขอประกาศตัวเป็นผู้นำในการรุกตลาดธุรกิจ "ไลฟ์ คอมเมิร์ซ" (Live-Commerce) พร้อมเปิดตัว "แฮนด์ อัพ" (Hands Up) Live-Commerce Solutions เจ้าแรกในประเทศไทย ตัวช่วยที่จะทำให้การไลฟ์ขายของบนโลกออนไลน์ของคุณนั้น... ง่ายนิดเดียว"คุณนิธินันท์ กล่าว
นายอรรถพล สินฉลอง Marketing & Business Development Director บริษัท เอ็มเซเว่นทีน เซอร์วิสเซส ไทยแลนด์ กล่าวว่า "สำหรับ "แฮนด์ อัพ" คือรูปแบบของ "ไลฟ์ คอมเมิร์ซ" ที่ทางบริษัทฯ ได้ชูเป็นโซลูชั่นแรก ในการรุกตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย โดย "แฮนด์ อัพ" จะทำหน้าที่เป็น "ผู้จัดการระบบ" มีฟังค์ชั่นการใช้งานในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ ช่วยสนับสนุนและปิดการขายให้กับผู้ขายหรือร้านค้าบนโลกออนไลน์ที่ทำการ "ไลฟ์สด" สามารถเพิ่มยอดขายสินค้าได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความมั่นใจและความสะดวกสบายแก่ผู้ซื้อสินค้าได้ด้วยเช่นกัน"
นอกจากนั้นแล้ว คุณอรรถพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "เราต้องการทำให้ธุรกิจ "ไลฟ์ คอมเมิร์ซ" (Live-Commerce) เป็นที่แพร่หลายเช่นเดียวกับในประเทศไต้หวันและประเทศจีน ที่ธุรกิจประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยแพลทฟอร์ม "แฮนด์ อัพ" ได้เปิดตัวในปี 2019 มีร้านค้าที่ไลฟ์ขายของในระบบมากกว่า 7,000 ราย ในเอเชีย สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางกลุ่มเป้าหมายหลักไว้ คือ กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีประสบการณ์การขายสินค้าผ่านช่องทาง "ไลฟ์สด" บนโลกออนไลน์ หรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมืออาชีพด้าน "ไลฟ์ คอมเมิร์ซ" มาช่วยจัดการโซลูชั่นด้านการขาย และทำการตลาดแบบครบวงจร ซึ่งบริษัทฯ ยังมีบริการ "นักไลฟ์" หรือ ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดและไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ ทั้ง KOL (Key Opinion Leader) และ Influencer มาเป็นตัวช่วยรีวิวและทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ต่างๆ ให้กับสินค้าหรือแบรนด์ ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังโน้มน้าวจิตใจของกลุ่มผู้บริโภคให้หันมาสนใจสินค้าหรือแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งในขณะเดียวกัน บริษัทฯยังได้เปิดช่องทางรับสมัครสำหรับผู้ที่สนใจจะเป็น "นักไลฟ์" ผ่านช่องทาง https://www.naklive.net/ เพื่อช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ แก่ผู้ที่สนใจเป็นนักไลฟ์มืออาชีพในอนาคตอีกด้วย"
"เราคาดหวังว่า จากการเปิดตัว "แฮนด์ อัพ" (Hands Up) Live-Commerce Solutions อย่างเป็นทางการในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ โดยตั้งเป้าประมาณการรายได้ในปีแรกไว้ที่ 10% ของส่วนแบ่งตลาดไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์ และตลาดซีคอมเมิร์ซ นอกจากนั้นเรายังคงมีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนและขับเคลื่อนเครือข่ายเศรษฐกิจดิจิตัล (Digital Economy) ของประเทศไทย ให้มีการเติบโตและเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการส่งเสริมและพัฒนาในกลุ่มธุรกิจ SME ให้มีความสามารถในการแข่งขันได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประเทศไทยได้อีกช่องทางด้วย" คุณอรรถพล กล่าว