svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สภาพัฒน์ชี้ "คนจน" ลดเหลือ 5.3 ล้านคน

สภาพัฒน์ ระบุในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนคนจนลดลงต่อเนื่อง เหลือ 5.3 ล้านคน จาก 13.1 ล้านคนในปี 2551 ส่วน 10 จังหวัดที่เผชิญปัญหาความยากจนมากที่สุดคือ ปัตตานี นราธิวาส แม่ฮ่องสอน กาฬสินธ์ นครพนม ตาก ชัยนาท บุรีรัมย์ สระแก้ว และพัทลุง

ที่ปรึกษาด้านนโยบาย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สศช. จินางค์กูร โรจนนันต์ ระบุ แม้ไทยจะยังเผชิญกับสภาวะความยากจนและความเหลื่อมล้ำแต่แนวโน้มความยากจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าจำนวนคนจนและสัดส่วนคนจนต่อประชากรปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี2551 โดยลดลงจาก 13.1 ล้านคน เหลือ 5.3 ล้านคน
สัดส่วนคนจนค่อยๆปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคแต่จังหวัดที่ยังเผชิญกับปัญหาความยากจนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ จังหวัดปัตตานีนราธิวาส แม่ฮ่องสอน กาฬสินธ์ นครพนม ตาก ชัยนาท บุรีรัมย์ สระแก้ว และพัทลุงโดยความยากจนยังคงกระจุกตัวในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือเป็นสำคัญ
แม้ปัญหาความยากจนมีแนวโน้มลดลงแต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำกลับไม่ได้ลดลงในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่อยู่ในด้านการศึกษาสวัสดิการทางสังคม และคุณภาพของระบบสาธารณสุข

สภาพัฒน์ชี้ \"คนจน\" ลดเหลือ 5.3 ล้านคน


ในส่วนของการศึกษา สิ่งที่เป็นอุปสรรคและถูกพูดถึงมากที่สุดคือผลลัพธ์ทางการเรียนการสอนเพื่อนำไปใช้ในการทำงานและการประกอบอาชีพของแต่ละพื้นที่ที่ยังมีความแตกต่างกันรวมถึง การเข้าเรียนในระดับที่สูงขึ้นจากขั้นพื้นฐานที่คนรวยมักจะมีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดีมากกว่าคนจน
ส่วนด้านสวัสดิการทางสังคม ปัญหาที่พบคือความครอบคลุมของสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ในหลายๆพื้นที่โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีและอุปสรรคที่พบในด้านคุณภาพของระบบสาธารณสุขคือความรวดเร็วและจำนวนที่เพียงพอของสถานที่กับจำนวนผู้ใช้บริการและมาตรฐานในการให้บริการที่ยังคงมีความแตกต่างกันทั้งในระดับส่วนกลางและภูมิภาค