svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ผบ.ทบ. ระดมกำลังพลกว่า 6 พันนาย พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือช่วย 14 จังหวัด รับมือ พายุปาบึก

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2562 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีสถานการณ์พายุ "ปาบึก" บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช ในเย็นวันนี้ ทำให้มีฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูงและลมแรง


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งหน่วยทหารในส่วนกลางเข้าสนับสนุน โดยร่วมบูรณาการการทำงานกับหน่วยทหารของ กองทัพภาคที่ 4 ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนจากเหตุพายุโซนร้อน "ปาบึก" ซึ่ง โดยเน้นกำชับความปลอดภัยของ เจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมสั่งการให้มีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ขึ้นที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ร่วมกับ กองทัพภาคที่ 4และ มณฑลทหารบกใน 14 จังหวัดภาคใต้ อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ได้มีการจัดตั้ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยขึ้นจำนวน 22 ศูนย์ ทั้ง 14จังหวัดภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์ และพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยได้ในทันที

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ล่าสุด มีการตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือประชาชนส่วนหน้าประจำพื้นที่เสี่ยงเรียบร้อยแล้ว การจัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ประกอบด้วย กองร้อยบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 45 กองร้อย มีกำลังพลรวม 6,048 นาย, รถบรรทุก 240 คัน, เรือ 115 ลำ, ชุดแพทย์เคลื่อนที่ 14 ชุด, รถครัวสนาม 22 คัน, ชุดเปิดเส้นทาง 4 ชุด และได้มีการจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากส่วนกลาง ไปเสริม โดยกองพลทหารราบที่ 9 ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุก ขนาด 2 1/2 ตัน จำนวน 6 คัน และรถครัวสนาม จำนวน 3คัน เข้าไปเสริม ซึ่งได้เคลื่อนย้ายเดินทางไปสมทบ กับ ทภ.4 ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช แล้วในวันนี้

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ในส่วนกลางลงไปเพิ่มเติม มีสองส่วน ส่วนแรกประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค 1 ลำ , เฮลิคอปเตอร์ MI 17 1 ลำ พร้อมชุดค้นหาและกู้ภัย จำนวน 15 นาย จากศูนย์การบินทหารบก และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ , รถสะพานเครื่องหนุนมั่น (MFB) จำนวน 2 คัน, รถสายพานอเนกประสงค์ (BRONCO) จำนวน 1 คัน ,รถยนต์บรรทุกขนาด ๕ ตันประกอบเครื่องยก 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาด 5 ตันสำหรับลากจูง 1 คัน จากกรมการทหารช่าง รวมถึง รถสื่อสารดาวเทียมทางยุทธวิธี 1 คัน จากกองพันทหารสื่อสารที่ 101 กรมทหารสื่อสารที่ 1 โดยพร้อมเข้าเชื่อมต่อระบบการสื่อสารทันที หากการสื่อสารของภาคพลเรือน ติดขัดในบริเวณพื้นที่ประสบภัย ซึ่งทั้งหมดได้มีการเคลื่อนย้ายเพื่อเดินทางไปคอยให้การสนับสนุนอยู่ ณ บริเวณกองบิน 5 (อ่าวมะนาว) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียบร้อยแล้ว

สำหรับส่วนที่สอง มี รถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน (FTS) จำนวน 16 คัน, รถครัวสนาม จำนวน ๖ คัน, รถผลิตน้ำประปาจำนวน 1 คัน จากกองพลทหารราบที่ 9 และ รถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน (FTS) จำนวน 4 คัน จากกรมการทหารช่าง และ รถครัวสนาม จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน (FTS) จำนวน 1 คัน จากกรมทหารสื่อสารที่ 1 ได้มีการเคลื่อนย้ายจากที่ตั้งหน่วยปัจจุบัน เพื่อเดินทางไปคอยให้การสนับสนุนอยู่ ณ บริเวณ ศูนย์การทหารราบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งคาดว่าจะถึงในช่วงเย็นวันนี้