svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"โกศล ปัทมะ" เชื่อ นปช.ไม่เอาด้วยกับ "กลุ่มสามมิตร" ที่ต้องการให้ คสช.สืบทอดอำนาจ

"โกศล ปัทมะ" ระบุพฤติกรรมของกลุ่มสามมิตรต้องการให้ คสช.สืบทอดอำนาจ ซึ่งตรงข้ามกับอุดมการณ์ นปช.เชื่อ นปช.ไม่เอาด้วย และยังจดจำเหตุการณ์สลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากได้ดี

วันนี้ (16 ก.ค. 61) ที่ จ.นครราชสีมา นายโกศล ปัทมะ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตรอ้างว่าได้เดินสายพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับทราบปัญหาของ นปช.หลายจังหวัดเพื่อหวังจะดึง นปช.เข้าไปร่วมนั้นว่า ตนเองไม่มั่นใจว่าคนที่นายภิรมย์ฯ ไปพบเป็นแกนนำหรือสมาชิก นปช.จริงหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่า นปช.มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยทุกคนจะเห็นได้จากที่ผ่านมา นปช.ได้ออกมาเรียกร้องให้มีขบวนการนิติรัฐ นิติธรรมเกิดขึ้นในประเทศไทยมาโดยตลอด
เพราะฉะนั้นการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มใดที่ดึง นปช.เข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อนัยทางการเมืองตนก็เชื่อว่า นปช.จะแยกแยะได้ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตรที่ประกาศชัดเจนว่าต้องการให้ คสช.สืบทอดอำนาจซึ่งตรงข้ามกับอุดมการณ์ของ นปช.โดยสิ้นเชิง และตนก็ไม่เชื่อว่านายภิรมย์ พลวิเศษ ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนกลุ่มสามมิตรมีความตั้งใจจริงที่จะนำปัญหาของ นปช.หรือชาวบ้านระดับรากหญ้าไปนำเสนอรัฐบาล คสช.ให้มีการแก้ไขปัญหาเกิดขึ้น

"ผมเชื่อว่า นปช.และคนเสื้อแดงยังจดจำพฤติกรรมของนายภิรมย์ พลวิเศษ ได้ดี เมื่อครั้งย้ายจากพรรคพลังประชาชนไปอยู่พรรคภูมิใจไทยแล้วยกมือสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2552 ต่อมามีการชุมนุมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ฯ ลาออกและยุบสภา และก็เกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงขึ้นเมื่อปี 2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์เหล่านี้ นปช.และคนเสื้อแดง ยากที่จะลืมเลือน" นายโกศลฯ กล่าว

ด้านนายสมโภชน์ ประสาทไทย แกนนำกลุ่ม นปช.อำเภอเมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า การที่นายภิรมย์ พลวิเศษ เดินสายในนามเลขากลุ่มสามมิตร เพื่อพูดคุยกับกลุ่ม นปช.ในหลายจังหวัดภาคอีสานนั้น ตนมองว่าเป็นเพียงการสร้างภาพให้ดูยิ่งใหญ่เท่านั้น แท้จริงกลุ่ม นปช.ในพื้นที่ภาคอีสาน ยังคงยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยอยู่อย่างเหนียวแน่น ส่วนรายชื่อที่ถูกอ้างว่าเป็นกลุ่ม นปช.ที่ไปพูดคุยด้วยนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นชื่อผู้ที่อยู่ในกลุ่ม นปช.จริง แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปร่วมกลุ่มสามมิตรด้วย เป็นเพียงการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งใครก็ทำได้ โดยเฉพาะพูดคุยเรื่องการปรองดองด้วยแล้ว คนในกลุ่ม นปช.ก็พร้อมที่จะรับฟังอย่างมีเหตุผล

แต่เท่าที่ดูรายชื่อก็ไม่ได้มีแกนนำหลักของ นปช.สักคน อย่างเช่นนายเสนอ นันทน์กุล สมาชิก นปช.จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นเพียงแค่การ์ด นปช.ที่นายสุภร อัตถาวงศ์ อุปโลกน์แต่งตั้งให้เป็นประธาน อพปช.เท่านั้น ซึ่งองค์กรนี้ไม่ได้มีบทบาท หรืออำนาจใดที่จะมาบงการให้ นปช.คล้อยตามได้ หรือแม้ว่าบางคนอาจจะอยากเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรจริง ตนก็เชื่อว่าเขาเหล่านั้นไม่มีจุดยืน และกำลังมองหาจุดยืนที่จะทำให้ตนเองได้ประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้มองเห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติเลย จึงเป็นเรื่องส่วนบุคคลเท่านั้นไม่ใช่เรื่องของกลุ่ม นปช. เพราะหากเป็นคนของ นปช.จริง ก็ต้องมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน
ซึ่งตนมองว่ากลุ่มสามมิตรไม่ได้น่ากลัวอะไร คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานยังคงเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทยเสมอ แม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคอะไร แต่อุดมการณ์ยังอยู่ ส่วน ส.ส.ที่เปลี่ยนพรรคนั้น เพราะว่าปัจจุบันนี้ พรรคเพื่อไทยโฟกัสไปที่คนรุ่นใหม่ จึงทำให้คนรุ่นเก่าไม่มีพื้นที่ยืน จำเป็นต้องไปหาหัวเรือใหม่แทน และฝากถึงรัฐบาลด้วยว่า ขอให้มีมาตรฐานเดียวกันบ้าง เพราะหากปล่อยให้กลุ่มสามมิตรยังคงเดินสายเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ฝ่ายเดียวเช่นนี้ อาจจะทำให้คนหมดศรัทธาได้ ที่ นปช.ไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะยึดถือในกฎหมายบ้านเมือง ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในสังคมไปมากกว่านี้.