"โค้ชเอก" วัย 25 ปี เป็นผู้ใหญ่คนเดียวในจำนวน 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ในช่วงแรกที่ปรากฏข่าวออกมา ต้องยอมรับว่ามีเสียงตำหนิ "โค้ชเอก" ว่าพาเด็กๆเข้าไปได้อย่างไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งนานวันเท่าไหร่ ความหวังที่เด็กๆจะรอดปลอดภัย ยิ่งพุ่งมาที่ "โค้ชเอก"
และมีเสียงพูดออกมามากขึ้นๆ ว่า เชื่อมั่นว่า "โค้ชเอก" จะดูแลน้องๆให้มีชีวิตรอดได้
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
เหตุผลแรก น่าจะเป็นเพราะที่ผ่านมา "โค้ชเอก" แสดงให้เห็นว่าเขามีความรักความหวังดีให้กับเด็กๆ "ทีมหมูป่า" จริงๆ เขาทุ่มเทดังนั้นเขาย่อมต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลเด็กๆ
"โค้ชนพ" นพรัตน์ กันฑะวงศ์หัวหน้าโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี หัวหน้าโค้ชเอก ให้สัมภาษณ์คมชัดลึกออนไลน์ หลังข่าวดีการพบตัวทั้ง 13 ชีวิตว่า"ผมมั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่าโค้ชเอกจะต้องสามารถดูแลเด็กๆได้"
ทั้งนี้หากใครที่ติดตามกรณีนี้มาตลอด จะเห็นว่า "โค้ชนพ" ให้สัมภาษณ์แสดงความมั่นใจในตัวโค้ชเอกมาตั้งแต่วันแรกๆจริงๆ
ถ้าถามว่าทำไมโค้ชนพ มีความมั่นใจในตัวโค้ชเอกขนาดนั้น ก็คงต้องย้อนไปตั้งแต่วันแรกๆที่โค้ชเอกเข้ามาอยู่กับทีมหมูป่า
"เมื่อสักปี 2556-2557 ผมชวนโค้ชนพเข้ามาช่วยดูแลเด็กในทีม หลังจากเพิ่งตั้งทีมหมูป่าขึ้นมา หลังจากเห็นเขามาออกกำลังกาย มาเล่นฟุตบอลที่สนามกีฬากลาง อ.แม่สาย อยู่เป็นประจำ ซึ่งผมก็พาเด็กๆในทีมไปฝึกซ้อมที่นั่น พอรู้ว่าเขาชอบฟุตบอลจึงชวนมา และเขาก็เป็นคนที่รักเด็กมาก หลังจากเข้ามาช่วยดูแลทีม ตอนหลังเขาก็ขอเป็นคนดูแลทีมหมูป่ารุ่นเล็กสุด คือรุ่นอายุ 11-13 ปี ความที่เขาเป็นคนรักเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาเขาดูแลน้องๆอย่างดี และสนิทกับน้องๆมาก ทำให้ผมมั่นใจ"โค้ชนพ บอก
อีกเหตุผลที่สำคัญ คือ "โค้ชเอก" สนใจและศึกษาเรื่องการท่องเที่ยวแนวผจญภัย และที่ผ่านมาโค้ชเอกกับเด็กๆก็เคยไปเที่ยวในถ้ำหลวงกันมาแล้วหลายรอบ
ถึงแม้ว่า "โค้ชนพ" จะบอกว่า เขาไม่ทราบเรื่องที่โค้ชเอกเคยพาเด็กๆไปเที่ยวถ้ำ และสำหรับครั้งนี้ถ้าทราบก็คงไม่ให้ไป แต่อย่างไรก็ตามหัวหน้าโค้ชทีมหมูป่า บอกว่าถือว่าโชคดีที่โค้ชเอกอยู่กับเด็กๆด้วยโดยเฉพาะเมื่อได้ยินข้อมูลว่า เด็กๆและโค้ชประทังชีวิตด้วยน้ำที่หยดจากในถ้ำ และพยายามอยู่นิ่งๆให้มากที่สุดเพื่อรักษาพลังงานในร่างกาย
"ถ้าเป็นผมคงไม่สามารถดูแลน้องๆได้ดีเท่าโค้ชเอก เพราะผมไม่รู้ความรู้เกี่ยวกับการเดินถ้ำเลย ถ้าเป็นผม ไม่เป็นใจว่าจะอยู่ได้ตั้งแต่ชั่วโมงแรกหรือเปล่า แต่ดูจากสภาพน้องๆที่ปรากฏออกมาแล้ว แสดงให้เห็นว่าการเอาชีวิตรอดของพวกเขาสุดยอดจริงๆ"
"ต้องยกความดีทั้งหมดให้กับโค้ชเอก เขาเป็นยิ่งกว่าฮีโร่ของพวกเรา เขาอายุแค่ 25 ปี แต่สิ่งที่เขาทำยิ่งใหญ่ เคารพหัวใจของผู้ชายคนนี้เลย"โค้ชนพ กล่าวกับคมชัดลึกออนไลน์
"ในปฏิบัติการครั้งนี้ มีฮีโร่หลายคนโค้ชเอกก็คือฮีโร่คนหนึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้"โค้ชนพ กล่าวย้ำ
โค้ชนพเล่าถึงชีวิตของโค้ชเอกว่า กำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ต่อมาได้ไปบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่ลำพูน 8 ปี และเรียนทางธรรมไปด้วยจนจบนักธรรมเอก
ปัจจุบันนอกจากทำหน้าที่เป็นโค้ชทีมหมูป่า ซึ่งเป็นโค้ชที่ผ่านการอบรมในหลักสูตร ที ไลเซนต์ แล้ว โค้ชเอกยังช่วยทำงานที่วัดพระธาตุดอยเวา ต.เสียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด้วย
คมชัดลึกออนไลน์ ได้ต่อสายไปพูดคุยกับ"พระครูสัทธรรมโกวิท"เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา ทำให้ได้ข้อมูลที่สนใจเกี่ยวกับ "โค้ชเอก" มากขึ้นไปอีก
"โค้ชเอกช่วยเหลืองานวัดอย่างดีทำงานอยู่กับวัดมาประมาณ 3 ปีแล้ว วัดไม่ได้มีเงินเดือนให้ แต่ให้ค่าตอบแทนบ้างเป็นครั้งคราว อยู่ด้วยกันเหมือนช่วยเกื้อกูลกันไป เขาเป็นที่รักของทุกคนที่วัดรวมทั้งญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด เพราะเป็นเด็กดีใจกว้าง มีน้ำใจ บางครั้งที่วัดมีงานก็เอาเด็กๆในทีมมาช่วย เป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ร่างกายแข็งแรงมากๆ ทำงานไม่ค่อยเหนื่อย ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นต้องไปหาหมอ ตอนนี้ยังมีญาติโยมจากกรุงเทพ 7-8 คน มารอฟังข่าวอยู่ มาสวดมนต์ให้ตั้งแต่ 3-4 วันแรก"
เจ้าอาวาสฯ บอกต่ออีกว่า ปกติโค้ชเอกจะเดินทางไปๆมาๆระหว่างที่วัดกับฝั่งพม่าเพื่อกลับไปดูแลย่า
"โค้ชเอกเป็นชาวพม่า เชื่อสายไทยใหญ่ เขาเดินทางเข้าออกประเทศไทยด้วยพาสปอร์ต"เจ้าอาวาสบอกข้อมูลเกี่ยวกับโค้ชเอกที่หลายคนก็คงเพิ่งทราบ
พระครูสัทธรรมโกวิท ให้ข้อมูลอีกว่ากิจวัตรประจำวันของโค้ชเอก คือ ตอนเช้าประมาณ 9- 10 โมง ก็จะมาช่วยงานที่วัด จนถึงประมาณบ่าย 3-4 โมง จากนั้นตอนเย็นไปช่วยฝึกสอนฟุตบอลให้เด็กๆ ตอนค่ำถ้าที่วัดมีงานก็มาช่วย ช่วยทุกอย่างรวมไปถึงการร่วมกิจกรรมสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมกับญาติโยม ถ้าวันไหนไม่สะดวกกลับไปฝั่งพม่าก็จะพักที่วัดซึ่งมีที่พักให้
เจ้าอาวาสฯ เล่าอีกว่า โค้ชเอกเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง และชอบกิจกรรมที่ฝึกความอดทน และถ้ามีเวลาโค้ชเอกก็จะพาเด็กๆในทีมฟุตบอลไปฝึกความอดทน โดยโค้ชเอกเคยบอกว่าอยากให้เด็กฝึกความอดทนอยู่ตลอด ไม่ใช่ไปฝึกตอนที่จะถึงเวลาแข่งเท่านั้น บางครั้งก็มาขออนุญาตพาเด็กๆปั่นจักรยานไปในที่ต่างๆ
"อาตมาเชื่อว่า ความที่โค้ชเอกเป็นคนที่อยู่กับวัดมาตลอดตั้งแต่เด็ก มีการปฏิบัติธรรมทำสมาธิ สิ่งนี้น่าจะช่วยโค้ชเอกได้เยอะตอนที่ติดอยู่ในถ้ำ เพราะนอกจากร่างกายที่แข็งแรงแล้ว เรื่องจิตวิทยา เรื่องสมาธิ เรื่องคำพูด และจิตใจที่เข้มแข็งก็เป็นเรื่องที่สำคัญด้วย"
ใครที่มีคำถามว่า 10 วัน ที่ผ่านมา เด็กๆและโค้ชอยู่กันอย่างไรในถ้ำ ถึงตอนนี้คงจะพอได้คำตอบบ้างแล้ว...
+++++++++
=================
โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์