svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์ยอมผ่อน! มอบหมายให้ CFIUS ดูแลกรณีบริษัทต่างชาติ ซื้อกิจการบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ

ทรัมป์ยอมผ่อนหนึ่งก้าวในการมอบหมายให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐ (CFIUS) เป็นผู้ดูแลในกรณีที่บริษัทต่างชาติ ซึ่งรวมถึงจีนที่ต้องการจะซื้อกิจการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐที่มีความอ่อนไหวในขณะนี้


แต่แลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า แผนการณ์ที่ผู้นำสหรัฐได้ประกาศออกไปนั้น ไม่ได้บ่งชี้ว่า สหรัฐจะอ่อนข้อให้กับจีน


1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยถึงการมอบหมายให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐ (CFIUS) เป็นผู้ดูแลในกรณีที่บริษัทต่างชาติซึ่งรวมถึงจีนที่ต้องการจะซื้อกิจการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐที่มีความอ่อนไหว


ในการตัดสินใจดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้ ถูกมองว่าไม่เข้มงวอย่างที่ได้ประกาศด้วยเป็นนโยบายที่แข็งกร้าวไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ ที่เกี่ยวกับการที่สหรัฐจะใช้มาตรการสกัดกั้นเข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีคนเชื้อสายจีนถือหุ้นมากกว่า 25%



2. ส่วนแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า แผนการณ์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศออกไปนั้น ไม่ได้บ่งชี้ว่า สหรัฐจะอ่อนข้อให้กับจีน แต่การให้คณะกรรมการ CFIUS เป็นผู้ตัดสินใจว่าเมื่อใดที่บริษัทจีนควรจะถูกระงับการการเข้าถือครองบริษัทในสหรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ

โดยสหรัฐคาดหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งกับจีน แต่ในขณะเดียวกันสหรัฐก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

นอกจากนี้ การที่คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ทบทวนนโยบายการค้าที่จะนำมาใช้กับจีน ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐจะเปลี่ยนจุดยืนในการใช้มาตรการคุมเข้มด้านการค้ากับจีน


3. ขณะเดียวกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติ 400 ต่อ 2 ผ่านร่างกฎหมายจำกัดการลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ต่อริษัทจากจีนจะเข้ามามีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการจำกัดการแผ่ขยายการลงทุนของบริษัทโทรคมนาคมของจีนที่จะเข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ จนสร้างความกังวลต่อสหรัฐ

โดยเจ้าหน้าที่รัทางการสหรัฐมีการเปิดเผยว่า ทางทำเนียบขาวจะไม่ใช้มาตรการสกัดกั้นบริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นมากกว่า 25% เข้ามาซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ แต่ต้องการให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติประเทศในสหรัฐ เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับการที่บริษัทต่างชาติมีความต้องการซื้อบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐที่มีความอ่อนไหว ซึ่งจะไม่เข้มงวดเหมือนกับข่าวที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้



4. ในเวลาที่ใกล้เคียงกันนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตข้อความวิพากษ์วิจารณ์ต่อการที่บริษัทฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ ตัดสินใจโยกฐานการผลิตออกจากสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการเก็บภาษีจากสหภาพยุโรป (EU) ต่อมอเตอร์ไซค์ที่นำเข้าจากสหรัฐ

พร้อมกับระบุว่า ฮาร์ลีย์-เดวิดสันควรอยู่ในสหรัฐทั้ง 100% และอยู่ร่วมกับชาวอเมริกันที่ทำให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ โดยสิ่งต่างๆ ที่ทำมามากมายเพื่อธุรกิจของสหรัฐ แต่กลับมากระทำเช่นนี้ ในขณะที่บริษัทอื่นๆ กำลังกลับมาในที่ควรอยู่

ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่วิตกถึงปัญหาสงครามการค้า ได้มีการประกาศว่า จะโยกฐานการผลิตออกจากสหรัฐสำหรับการส่งออกมอเตอร์ไซค์ไปยัง EU เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการเก็บภาษีจาก EU ต่อมอเตอร์ไซค์ที่นำเข้าจากสหรัฐ

ทั้งนี้ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มีการลงทุนจั้งฐานการผลิตนอกสหรัฐในขณะนี้อยู่ที่บราซิล อินเดีย และไทย โดยมีส่วนแบ่งการขายในตลาด EU ถึง 17



5. ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาด NYMEX ปิดที่ 72.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ หรือ 3.2%ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศติกายน 2014 หลังจากมีการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

รวมทั้งจากการที่กระทรวงค่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมันให้ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร เนื่องจากสหรัฐประกาศคว่ำบาครอิหร่านที่มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 4 พฤศติกายน

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นอกจากนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยถึงการส่งออกน้ำมันดิบ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นรองลงมาจากซาอุดิอาระเบีย ที่ส่งออกน้ำมันดิบ 7.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอิรักมีการส่งออกน้ำมัน 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน