แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบบ้านพักขนาดใหญ่ 2 หลังในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่าวันนี้เวลาประมาณ 10 .00 น.นายบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าของบ้าน 1 ใน 2 หลัง นัดเข้าให้ปากคำกับ ผู้อำนวยการกองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.มนตรี บุญโยธิน แม้ว่าปัจจุบันนายบุญชัย ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้อดีตภรรยาเป็นผู้ถือครองที่ดินจำนวน 3 ไร่พร้อมสิ่งปลูกสร้างก็ตาม
สำหรับพยานหลักฐานที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษนั้น เนื่องจากมีข้อห้ามตามกฎหมายที่ดิน ระบุชัดเจนว่าห้ามออกเอกสารสิทธิในที่เขาหรือภูเขา และในเขตที่สงวนหวงห้ามของรัฐ อีกทั้งในช่วงเวลานั้นมีหลักฐานเท็จหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำประโยชน์ ที่อ้างว่าทำสวนผลไม้มากว่า 30 ปี ทั้งที่สภาพเป็นป่า และช่องทางตามกฎหมายไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้
แหล่งข่าวบอกอีกว่า จากการสอบสวนผู้ดูแลบ้านบอกว่าแต่เดิมเป็นของนายบุญชัย ต่อมามอบให้อดีตภรรยา และเผอิญว่าใช้ชื่อบริษัทหนึ่งเข้ามาถือครองแทน ดังนั้น จึงต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจง
ทั้งนี้ พื้นที่ที่นายรัตน์ และนายบุญชัยมีชื่อครอบครองอยู่บริเวณยอดเขา ซึ่งนายทุนที่บุกรุกได้นำพื้นที่ดังกล่าวไปขายให้กับบริษัทแห่งหนึ่งเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ และมีชื่อของนายทุนเข้าไปเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นด้วย จึงกำลังพิจารณาว่าต้องเรียกสอบนายทุนคนดังกล่าวในฐานะพยานหรือผู้ต้องหา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ เจ้าของบ้าน 1 ใน 2 หลัง บนยอดเขาพังงา ได้เข้าพบดีเอสไอ พร้อมด้วยทนายความ และยืนยันได้ที่ดินมาถูกต้อง