เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 พ.ย.58 ความคืบหน้าหลังเกิดกรณี ที่พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 รับแจ้งว่าพบด.ญ.วัย 4 ขวบ ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ไม่มีเอกสารทะเบียนบ้านและใบสูติบัตรที่จะเข้าเรียนศูนย์เด็กเล็กประจำหมู่บ้านในพื้นที่ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ และสงสัยว่าจะเป็นเด็กที่ถูกขโมยไปจากรพ.ขอนแก่น มานาตั้งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.54 ที่ผ่านมา จึงประสานรพ.ขอนแก่น และมารดาของเด็กที่แท้จริง ที่ลูกสาวหายเพื่อขอตรวจดีเอ็นเอ เบื้องต้นเมื่อมารดาที่แท้จริงเห็นหน้าหนูน้อยรายนี้แล้วก็เชื่อว่าเป็นลูกสาว โดยจำตำหนิที่ใบหูขวาที่มีรอยแหว่งได้ เมื่อสอบถามผู้ที่นำเด็กมาฝากเรียนบอกว่าเป็นย่า และมีการตรวจผลดีเอ็นเอยืนยันออกมาว่าเป็นแม่ลูกกันจริงตามที่เคยแจ้งความหายเมื่อช่วงกว่า 4 ก่อน จนมีขยายผลติดตามจับกุมสาวชัยภูมิ รายนี้ที่ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือขโมยเด็กหญิงรายนี้ไปจริง ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
หลังแม่ตัวปลอมยังถูกควบคุมตัวไว้ที่สภ.ขอนแก่น ระหว่างทำเรื่องขอประกันตัวออกมานั้น ด้านพ.ต.อ.พิสิฐ หลวงเทพ หัวหน้าพนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ ตร.ภาค.4 จ.ขอนแก่น เจ้าของคดี เปิดเผยว่า การขอยื่นประกันตัวของแม่ตัวปลอมขณะนี้ติดเรื่องเอกสารบางอย่างจึงยังไม่สามารถนำเสนอขอให้ประกันตัวออกมาได้ และน่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นได้ไม่เกินวันพรุ่งนี้
ในส่วนของสภาพจิตใจด.ญ.4ขวบรายนี้หลังทราบเรื่องว่าพ่อแม่ และปู่ย่า ที่เลี้ยงตนเองมาตั้งแต่เกิดนานกว่า 4 ขวบ ว่าไม่ใช่ตัวจริง จนหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้อาจเกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กขั้นรุนแรงได้ ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ตามพรบ.คุ้มครองเด็ก หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ทั้ง 2 จังหวัดที่จ.ขอนแก่นและจ.ชัยภถูมิ ได้ร่วมกันนำตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายแม่เด็กตัวจริงพร้อมตาแท้ๆ เดินทางมาเปิดเวทีเจรจาทำความเข้าใจร่วมกันกับฝ่ายคุณพ่อตัวปลอมและปู่ย่า จำเป็นของเด็กหญิงรายนี้ หลังในส่วนแม่ตัวปลอม ยังไม่ได้รับการประกันตัวและยังถูกคุมขังตัวไว้ก่อนที่เรือนจำกลางขอนแก่น
ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเทพสถิต จ.ชัยภูมิ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายขอไม่ยอมให้สื่อมวลชนทุกแขนงที่เดินทางมารอทำข่าวจำนวนมากหลายสิบชีวิตเข้าไปในห้องประชุมลับของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเทพสถิตในครั้งนี้ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการพูดคุยกันทั้งหมด 2 ฝ่ายออกมาไปในแนวทางที่ชัดเจนทั้งหมดก่อน เพื่อจะออกมาขอแถลงผลการเจรจาเองของตัวแทนทั้ง 2 ฝ่ายด้วยตัวเอง ซึ่งใช้เวลาพูดคุยในห้องประชุมลับครั้งนี้ตั้งแต่เวลา 11.00 ไปจนถึงเวลาเกือบ 15.00 น.วันเดียวกัน
ตัวแทนฝ่ายแม่จริง แม่ปลอม จึงเดินทางออกมาจากห้องประชุมและขอให้สื่อมวลชนติดตามไปฟังการชี้แจงแถลงข่าวด้วยตนเองที่ห้องประชุม รพ.เทพสถิต อีกครั้งในเวลาต่อมา
บรรยากาศก่อนการเจรจาได้มีนายธวัชชัย ปิดสุวรรณ ผญบ.ที่ด.ญ.รายนี้ หรือน้องข้าวหอม ถูกขโมยมาอยู่กับปู่ย่า จำเป็นนานกว่า 4 ปี ที่จ.ชัยภูมิ ได้นำตัวแทนชาวบ้านจากหมู่บ้านที่จ.ชัยภูมิกว่า 50 คนเดินทางมารอให้กำลังใจครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย และอยากให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันจบลงด้วยดี และไม่อยากให้ทำร้ายสภาพจิตใจเด็กโดยไม่อยากให้แม่ตัวจริงรีบรับน้องกลับไปเลี้ยงเองเลยทันที เพราะหลายๆฝ่ายรวมทั้งตัวน้องเองยังปรับตัวไม่ทันรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากจะขอร้องให้ครอบครัวของแม่แท้ๆได้ให้ลูกสาวได้อาศัยอยู่ที่บ้านปู่จำเป็นรายนี้ไปก่อนในช่วงนี้เพื่อให้เด็กได้ปรับสภาพจิตรใจไประยะหนึ่งก่อน
ต่อมาทางตัวแทน ญาติทั้ง 2ฝ่ายแม่ตัวจริงแม่ตัวปลอมได้เปิดแถลงร่วมกันข่าวที่ห้องประชุมโรงพยาบาลเทพสถิต ว่าข้อตกลงในเบื้องต้นครอบครัวทั้งสองจะช่วยกันดูแลเด็กเพื่อไม่ให้กระทบจิตใจร่วมกันไปก่อนจนกว่าเด็กจะรับได้และพร้อมกลับคืนสู่อ้อมอกแม่ตัวจริงต่อไป โดยจะให้เด็กเรียนหนังสื่อและพักอยู่ที่บ้านของปู่จำเป็นที่จังหวัดชัยภูมิ ไปก่อนระยะหนึ่งโดยจะให้แม่ตัวจริง รวมทั้งตาแท้ๆเดินทางมาเยี่ยมลูกได้ตลอดเวลาและให้นำลูกสาวกลับไปดูแลที่จังหวัดขอนแก่น ได้เป็นระยะๆเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กไประยะหนึ่งก่อน
ทั้งนี้ จะผลัดเปลี่ยนกันนำเด็กไปดูแลทั้งที่จังหวัดชัยภูมิและจ.ขอนแก่น จนกว่าเด็กจะรับได้ โดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายแม่ตัวจริง หรือตัวปลอม ก็ตาม จากนี้ไปทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ครอบครัวจะพร้อมเป็นญาติพี่น้องกันช่วยกันเยียวยาเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ให้กระทบต่อเด็กให้ดีที่สุด และทางฝ่ายแม่ตัวจริงและตาแท้ๆเอง ก็พร้อมให้อภัยเรื่องที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวแม่ตัวปลอมทั้งหมด โดยเฉพาะทางฝ่ายปู่และย่าจำเป็นเอง ที่ไม่ทราบเรื่องว่าหลานที่ตัวเองเลี้ยงมานานกว่า 4 ปีนั้นไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่พอทราบเรื่องก็ไม่รังเกลียดแต่กลับยังให้ความรักความผุกพันตั้งใจช่วยกันเลี้ยงดูเป็นอย่างดีมาตลอด ซึ่งไม่มีเจตนานำเด็กมาญาติทารุณแต่อย่างใด ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันมามาพบหลานแท้ๆที่หายไปนานกว่า 4 ขวบในครั้งนี้ให้ได้ด้วย
ด้านปู่จำเป็น กล่าวว่าขณะนี้ได้ตกลงกับครอบครัวของน้องข้าวหอมเมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้นก็เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกันทั้งหมดแล้ว ตนพึ่งพอใจในข้อตกลงเป็นอันมากและรู้สึกดีใจมาก ตนพร้อมที่จะเลี้ยงดูน้องข้าวหอมเป็นอย่างดี ในช่วงแรกจะให้เด็กเรียนหนังสือและพักอยู่ที่บ้านตนไปก่อนระยะหนึ่งไปก่อนเพื่อช่วยกันเยียวยาให้น้องปรับตัวให้ได้ก่อน โดยจะให้แม่ตัวจริงเดินทางมาเยี่ยมลูกได้ตลอดเวลาและให้นำเด็กกลับไปดูแลที่จังหวัดขอนแก่น เป็นระยะๆเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กไประยะหนึ่งก่อน จนกว่าจะเป็นที่พอใจซึ่งต่อไปหากน้องข้าวหอมพร้อมที่จะกลับคืนอ้อมอกแม่ก็พร้อมจะให้รับตัวไปดูแลต่อไป
ด้าน แม่แท้ๆเด็กที่ถูกขโมยลูกไป กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ตอนแรกการเดินทางมาเจรจาในวันนี้ต้องการขอรับลูกกลับไปเลยที่จ.ขอนแก่นเลย ในฐานะเป็นแม่ในสายเลือดมีความพร้อมทุกอย่างแล้วที่จะให้ความรัก ความอบอุ่นแก่ลูกสาว แต่เมื่อเห็นลูกยังไม่พร้อมและยังปรับตัวไม่ทันได้ จึงยอมรับตามข้อตกลงในวันนี้ซึ่งครอบครัวตนเองก็รู้สึกพึงพอใจในข้อตกลงทั้งฝ่ายจบด้วยดีเช่นกัน และพร้อมเป็นญาติพี่น้องกันทั้งสองครอบครัวช่วยเยี่ยวน้องข้าวหอมร่วมกันด้วยดีต่อไป