ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง ว่า จากการตรวจสอบกรณีดังกล่าวทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่แอร์โฮสเตสสาวกำลังนำกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารเก็บที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะบนเครื่องบิน แต่จู่ๆก็มีผู้โดยสารชายอายุประมาณ 23 ปี ได้พูดกับแอร์โอสเตสสาวที่กำลังยกสัมภาระเก็บให้ผู้โดยสารทำนองว่า เก็บกระเป๋าให้ดี ระวังมีระเบิดซุกซ่อนอยู่ ทำให้แอร์โอสเตสสาวรับรู้ถึงความผิดปกติ และถือเป็นหลักตามระบบความปลอดภัย จึงได้แจ้งให้กัปตันทราบทันที ก่อนจะมีการสั่งยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการเชิญตัวชายหนุ่มคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.ย่อยดอนเมือง ภายในท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง พร้อมทั้งประสานให้เจ้าหน้าที่อีโอดีของการท่าฯ เข้าทำการตรวจสอบกระเป๋าใบดังกล่าวอย่างละเอียดทันที และถึงแม้จะพูดเล่น หรือพูดจริง ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของสายการบินทุกสายการบินต้องมีการตรวจสอบอย่างแน่ชัด และเที่ยวบินดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด โดยสำหรับโทษของ พ.ร.บ.การบิน หากสร้างความแตกตื่นสับสนวุ่นวายหรือตื่นตกใจกลัว จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนชายดังกล่าวอย่างเคร่งเครียด และยังไม่มีข้อมูลหรือรายละเอียดแน่ชัดว่าสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่เกิดความวุ่นวายดังกล่าวขึ้นจะบินจากสนามบินดอนเมืองไปจุดหมายที่ใด เนื่องจากทางสายการบินยังไม่ได้ชี้แจงหรือแจ้งรายละเอียดให้ทราบ
ต่อมา ร.ต.ท.ทศพร ดุดง พนักงานสอบสวน สน.ย่อยดอนเมือง (ส่วนแยกสนามบินดอนเมือง) ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า ได้ควบคุมตัวผู้โดยสารชายรายหนึ่ง หลังจากที่ได้รับแจ้งจากกัปตันสายการบินไลอ้อนแอร์ เส้นทางจากสนามบินดอนเมืองปลายทางหาดใหญ่ เนื่องจากชายคนดังกล่าวบอกกับแอร์โฮสเตสว่า มีระเบิดบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางขณะเครื่องบินจอดรอเตรียมขึ้นบินอยู่ที่ เกท 44 (Gate 44) จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวชายคนดังกล่าวทำการสอบสวนที่ สน.ย่อยดอนเมือง
ร.ต.ท.ทศพร กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนชายคนดังกล่าวทราบชื่อต่อมาคือ นายพิชิต บุญแดง อายุ 23 ปี ให้การว่า เพียงแค่พูดจาแซวหยอกล้อแอร์โฮสเตสที่ให้บริการบนเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเชิญตัวแอร์โฮสเตสคนดังกล่าวมาให้ข้อมูลอีกครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในกระเป๋าเดินทางซึ่งไม่พบระเบิดแต่อย่างใด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา แจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แต่การนั้นเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานระหว่างบินตื่นตกใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือมีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไว้ก่อน
"ต้องดูเจตนาของนายพิชิตอีกครั้ง ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ตอนนี้ทางสายการบินไลอ้อนแอร์ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันและเตรียมฟ้องร้องทางแพ่งแล้ว เนื่องจากทำให้เที่ยวบินไม่สามารถออกบินได้ตามกำหนด จึงทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก" ร.ต.ท.ทศพร กล่าว