รายงานพิเศษ - "Vientiane New World" เมืองใหม่สุดหรูแห่งเวียงจันทน์

ใครก็ตามที่ผ่านไปแถวๆ ดอนจัน ดินแดนใหม่ของเวียงจันทน์ที่ติดริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับอำเภอศรีเชียงใหม่ของจังหวัดหนองคายคงจะได้เห็นหมู่บ้านที่ชื่อว่า ASEM VILLA ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านทรงทันสมัยสุดหรูหลายหลังด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีโรงแรมดอนจัน อาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง และโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีกมากมายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ท่านผู้ชมทราบหรือไม่ครับว่า ทั้งหมู่บ้านอาเซมวิลล่า ทั้งโรงแรมดอนจัน พาเลซ ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในนครหลวงเวียงจันทร์ในขณะนี้ นั่นก็คือ โครงการ เวียงจันทน์นิวเวิลด์ หรือชื่อในภาษาลาวว่า โลกใหม่แห่งเวียงจันทน์ ครับ
คุณฝู เยี่ยน เฟรย่า ผู้จัดการฝ่ายขายของโครงการเล่าให้ผมฟังว่า โครงการนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนบนที่ดินกว้างกว่า 262 ไร่ที่เช่าระยะยาวเป็นเวลา 90 ปี และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเวลา 8-10 ปีนี้ครับ โครงการเวียงจันทน์นิวเวิลด์แบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ ได้แก่ ส่วนพลาซ่าหรือห้างสรรพสินค้า ส่วนบิสซิเนส เซ็นเตอร์ หรือ อาคารธุรกิจ และอินเตอร์เนชั่นแนล เรสสิเดนซ์ เซนเตอร์ หรือส่วนที่พักอาศัยครับ
สำหรับส่วนห้างสรรพสินค้ามีพื้นที่รวมถึง 75,000 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าแบบเปิดที่มีล้านกิจกรรม ศูนย์อาหาร และสถานที่เที่ยวกลางคืนรวมอยู่ด้วย และอีกส่วนหนึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแบบปรับอากาศสูง 3 ชั้นที่มีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร ร้านเสริมสวย โรงภาพยนตร์ ไปจนถึงที่เรียนพิเศษ ขณะที่อาคารธุรกิจจะเป็นตึกสูงหลายชั้น เน้นให้บริษัทจากต่างชาติมาเช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการ ส่วนบริเวณที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวสุดหรูที่มีพื้นที่กว้างขวาง คอนโดมิเนียม อพาร์ตเม้นท์ และโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวครับ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเกี่ยวกับนักลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่มาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในลาว เพราะว่ามีนักธุรกิจหลายรายที่เปลี่ยนใจในภายหลัง ถอนทุนคืนไป ทำให้การก่อสร้างที่ไม่แล้วเสร็จต้องถูกทิ้งร้างเอาไว้เช่นนั้นหรือไม่ก็เสร็จล่าช้ากว่ากำหนดไปมาก ส่งผลให้นักธุรกิจในท้องถิ่นที่สนใจต้องขาดทุนไปตามๆ กัน 
แต่สำหรับโครงการเวียงจันทน์นิวเวิลด์ คุณเฟรย่ายืนยันว่า เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะบริษัทที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ คือ บริษัท ไชน่า ซีเอเอ็มซี เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด มหาชน บริษัทสัญชาติจีนที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก และลงทุนด้านการก่อสร้างมาแล้วในหลากหลายทวีปทั่วโลก ทั้งเอเชีย สหรัฐฯ ยุโรปตะวันออก และแอฟริกา รวมกว่า 40 ประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนที่มีสำนักงานทั้งในลาว เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แต่ยังไม่ได้เข้ามาในไทย ขณะที่ในลาวไชน่า ซีเอเอ็มซี เอ็นจีเนียริ่ง ได้เข้ามาก่อสร้างในหลายโครงการแล้ว อาทิ สนามบินนานาชาติวัดไต สนามบินหลวงพะบาง โครงการระบายน้ำ เหมืองแร่ โรงแรมดอนจัน พาเลซ และหลวงพะบาง อนันตรา รีสอร์ต เป็นต้นครับ
หลังพูดคุยกับคุณเฟรย่าเสร็จ คุณคำคูณ พมมะสอน ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของโครงการ ก็ได้พาผมไปเดินสำรวจรอบๆ โครงการครับ โดยจนถึงขณะนี้ ส่วนที่แล้วเสร็จมีอยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น ได้แก่ โรงแรมดอนจันพาเลซซึ่งสร้างเสร็จเป็นแห่งแรกๆ เนื่องจากตอนแรกเจ้าของเป็นชาวมาเลเซีย แต่ไชน่า ซีเอเอ็มซี เอ็นจีเนียริ่ง เป็นผู้เทคโอเวอร์มา, หมู่บ้านอาเซมวิลล่า บ้านเดี่ยวสุดหรู 50 หลังที่สร้างขึ้นมาในปี 2555 เพื่อรองรับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียยุโรปครั้งที่ 9 หรืออาเซมซึ่งมีผู้นำเดินทางมาถึง 48 ประเทศ แต่ในปัจจุบันได้ปล่อยให้ผู้ที่สนใจมาซื้อหรือเช่าอยู่ในราคาที่แพงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สนนราคาเฉพาะค่าเช่าก็หลักแสนบาทต่อเดือนแล้วครับ, และสุดท้ายก็คืออาคารสำนักงานของบริษัทเองที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสำนักงานขายชั่วคราว แต่ในอนาคตก็จะเปิดให้ผู้สนใจมาเช่าพื้นที่เปิดบริษัทกันได้ครับ
ส่วนโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงสิ้นปีนี้ก็คือ ห้างสรรพสินค้าแบบเปิด หรือวอล์คกิ้ง สตรีท ที่ประกอบด้วยอาคารเล็กๆ ทรงลาวผสมตะวันตกสูง 2-3 ชั้น จำนวน 22 หลัง และจะเปิดให้ผู้ค้าที่สนใจเข้าจองพื้นที่ได้ในช่วงสิ้นปีนี้ ส่วนเฟสต่อไปก็คือการสร้างห้างสรรพสินค้าปรับอากาศที่มีชื่อว่า นิวเวิลด์ พลาซ่า โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีหน้าครับ
แม้ว่าภาพของการก่อสร้างที่ท่านผู้ชมเห็นตอนนี้จะยังดูไม่คืบหน้าไปไหนไกล จนอาจจะทำให้ท่านผู้ชมบางท่านคิดไปว่าคงเสร็จไม่ทันในปีนี้ แต่อย่าลืมว่าบริษัท ไชน่า ซีเอเอ็มซี เอ็นจีเนียริ่ง ที่อยู่เบื้องหลังมีเงินทุนมหาศาลขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าสามารถใช้เงินส่วนเล็กๆ จ้างแรงงานซึ่งหลักๆ เป็นชาวจีนและเวียดนามมาก่อสร้างแบบไม่อั้นได้อยู่แล้ว ขอเพียงให้เสร็จทันเวลาเท่านั้น ดังนั้น ท่านผู้ชมท่านไหนที่สนใจอยากจะมาช็อปปิ้งที่วอล์กกิ้งสตรีทที่แรกๆ ในเวียงจันทน์แห่งนี้ ขอให้อดใจรออีกหน่อย ปีหน้าได้มาเที่ยวกันแน่นอนครับ