ผู้เชี่ยวชาญชี้ แมงมุมพิษกัดคนไม่ตาย แต่อาจเสียชีวิต เพราะติดเชื้อโรคอื่นๆ

หลังกรณี ผู้ป่วยจากจังหวัดแพร่ ถูกแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลกัดและพิษแมงมุมทำให้เนื้อตายและพิษกระจายออกไปทั่วร่างกายนั้น นายประสิทธิ์ วงศ์พรม  นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญแมงมุมจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า ทราบจากข่าวถึงอาการของผู้ป่วย ไม่น่าจะใช่เกิดจากพิษแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล เพราะว่าจากลักษณะแผล แมงมุมชนิดนี้ หากกัดจะเป็นแผลเล็กและเป็นจุดบวมแดง เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 นิ้ว แต่อาการที่เห็นน่าจะมาจากการติดเชื้อเนื่องจากปล่อยเอาไว้นาน
"ที่ผ่านมา ไม่เคยมีรายงานว่าพิษแมงมุมสามารถทำให้คนเสียชีวิต แต่ที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากการติดเชื้อหลังจากที่ถูกกัดแล้วไม่ไปหาหมอมากกว่า เพราะพิษแมงมุมโดยตรงจะไม่สามารถแพร่ไปได้ทั้งร่างกาย แต่คงต้องรอผลตรวจสอบอีกครั้ง ผมไม่สามารถบอกได้ชัดเจน เพราะไม่เห็นซากแมงมุมที่จับเอาไว้ "
อย่างไรก็ตาม นายประสิทธิ์ บอกว่า สำหรับแมงมุมทีต้องจับตามองเพราะมีพิษร้ายแรงขณะนี้มี 3 ชนิดคือ 1. แมงมุมแม่ม่ายดำ จะมีนิสัยดุร้าย และเวลากัดจะฝั่งเขี้ยวนาน จนทำให้สามารถปล่อยพิษเข้าไปในร่างกายได้มาก ส่งผลให้มีโอกาสติดเชื้ออย่างอื่นได้มากด้วยเช่นกัน  2. คือ แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล มีนิสัยดุร้ายน้อยกว่า  กัดแล้วปล่อยไม่ฝั่งเขี้ยวเอาไว้ แม้จะมีพิษรุนแรงแต่ปล่อยพิษได้น้อยกว่า   3 .แมงมุมน้ำตาล (บราวเร็คคูซ่า) มีพิษร้ายแรงเช่นกัน
แมงมุมมีพิษทั้ง 3 ชนิดไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่นในไทย แต่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น  โดย แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล เคยมีรายงานการระบาดในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่แน่ชัดว่า เข้ามาในเมืองไทยได้อย่างไรคาดว่าน่าจะมากับการเดินทาง ค้าขาย หรือติดเรือสินค้าเข้ามา เพราะว่าพบแมงมุมชนิดนี้มานานแล้ว ส่วนแมงมุมแม่ม่ายดำ และแมงมุมน้ำตาล ขณะนี้เข้ามาประเทศไทย โดยการมีการซื้อขายกันผ่านอินเตอร์เนต ในกลุ่มผู้ที่นิยมเลี้ยงแมลงมีพิษ
"ต้องจับตาแมงมุม 3 ชนิดเพราะเริ่มเข้ามาในประเทศไทยว่าจะกระทบต่อนิเวศน์ของเราหรือไม่" นายประสิทธิ์กล่าว