svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สธ.สั่งเฝ้าระวัง อยุธยา-พิษณุโลก-บุรีรัมย์

สธ.สั่งเฝ้าระวัง อยุธยา-พิษณุโลก-บุรีรัมย์
13 มกราคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

13 มกราคม - สธ.สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์ 3 จังหวัด อยุธยา – พิษณุโลก – บุรีรัมย์ เหตุมีผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย หวั่นเกิดความรุนแรง

ขณะที่ รองปลัด สธ. ย้ำการทำงานรับมือสถานการณ์ทางการเมือง จะกลับไปปฏิบัติงานตามคำสั่งชุดเดิมที่ “อธิบดีกรมการแพทย์” เป็นประธาน พร้อมเผยตัวเลขผู้บาดเจ็บวันนี้ ล่าสุดยังมีเพียง 1 ราย  วันนี้( 13 ม.ค.) เวลา 10.00 น. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง โดย นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สถานบริการทุกแห่งของกระทรวงธารณสุขจะเปิดให้บริการอย่างเต็มกำลังโดยไม่เลือกข้าง  นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะใน 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และบุรีรัมย์ ที่มีผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มออกมาชุมนุมและเสี่ยงก่อให้เกิดความรุนแรงได้ ดังนั้นให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ติดตามสถานการณ์และรายงานทุกชั่วโมง เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อม ทั้งนี้จะมีการดูแลผู้บาดเจ็บทุกฝ่ายด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรมอย่างเท่าเทียมกัน หากพื้นที่ใดทีมของกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปไม่ได้จะประสานไปยังทีมของกรมแพทย์ทหารบกและทหารเสนารักษ์ จำนวน 12 ทีม ที่มีการประสานกับกองทัพบกไว้แล้ว  อย่างไรก็ตามหากประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บสามารถโทรศัพท์ประสานสายด่วน 1649  สายด่วน 1669 และ 02-35482222  สำหรับการเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางการเมืองนั้น ทาง สธ.จะกลับไปใช้คณะทำงานชุดเดิมซึ่งเรียกว่า คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีชุมนุมทางการเมือง(ส่วนหน้า)โดยมี นพ.ณรงค์ อภิกุลวานิชย์ รองอธิบดีกรมการแพทย์เป็นประธาน ทำหน้าที่ติดตามข้อมูลสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองอย่างใกล้ชิด วิเคราะห์สถานการณ์เพื่อประกอบการวางแผน วางแผนเตรียมการรับปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือการบาดเจ็บจากการชุมนุม ประสานการจัดทีมการแพทย์ ทีมกู้ชีพจากหน่วยงานของรัฐ เอกชน และมูลนิธิ และพิจารณาสั่งการการปฏิบัติงานของทีมต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินหรือบาดเจ็บจากการชุมนุม ประสานงานสถานพยาบาลต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมของทรัพยากรที่จำเป็นในการรองรับผู้ป่วย เช่น ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู เวชภัณฑ์ โลหิต และส่วนประกอบของโลหิต รวมถึงระบบการรับส่งต่อ รายงานสถานการณ์ ข้อมูลและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี ปลัด สธ. รองปลัด สธ.(นายวชิระ เพ็งจันทร์) และอธิบดีกรมการแพทย์ รับผิดชอบสั่งการเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อเหตุการณ์ บริหารจัดการทรัพยากร ประสานความช่วยเหลือและทรัพยากรจากหน่วยงานภายนอก รวมทั้งรับผิดชอบการให้ข้อมูลแก่สังคม นพ.อนุรักษ์  อมรเพชรสถาพร ผอ.สำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน(สธฉ.) กล่าวว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมทางการเมืองมียอดผู้บาดเจ็บสะสมแล้ว 286 ราย ในจำนวนนี้ยังคงนอนอยู่ใน รพ. 15 ราย ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บในวันนี้มีเพียง 1 ราย เป็นชายอายุ 31 ปี ถูกยิงที่คอด้านซ้าย บริเวณหน้าซอยแจ้งวัฒนะ 14 กระสุนโดนเส้นเลือดดำ แต่ได้ผ่าตัดจนอาการปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้ชุมนุมเสียชีวิตที่ จ.ราชบุรี  1 รายเป็นชายอายุ 64 ปีเนื่องจากมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน แล้วไม่ได้รับประทานยา โดยไปเสียชีวิตที่ รพ.ราชบุรี  นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ช่วงนี้อาจเกิดภาวะเครียดทางการเมืองสูง โดยเฉพาะผู้ชุมนุม ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงสถานที่ชุมนุม ดังนั้นแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ เสพข่าวให้น้อยลง ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต ญาติควรดูแลไม่ให้ขาดยา  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ณรงค์ พร้อมด้วย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและข้าราชการบางส่วนได้แต่งชุดข้าราชการสีกากี ซึ่ง นพ.วชิระ บอกว่าเป็นชุดข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามสัมภาษณ์ นพ.ณรงค์  กรณีที่ ศอ.รส.จะเรียกไปให้ข้อมูล แต่ นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบและบอกว่าขอไม่พูดเรื่องการเมืองภาพจากแฟ้ม

logoline
News Hub