นักไวรัสจีนยืนยัน ต้นตอโควิด-19 มาจากแล็บจีน

ดร.หลี่ เมิ่ง-เหยียน ที่เป็นหนึ่งในบุคคลกลุ่มแรกๆ ที่พยายามโน้มน้าวให้เชื่อในทฤษฎีห้องแล็บของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เป็นต้นตอการระบาดของโคโรนาไวรัสโควิด-19 ได้ระบุในรายงานล่าสุดว่า โควิด-19 เป็น "อาวุธชีวภาพที่ไร้ขีดจำกัด" ซึ่งรัฐบาลจีนกับนักวิทยาศาสตร์และองค์กรในต่างประเทศบางแห่ง ช่วยกันปกปิดไว้
ดร.หลี่ ให้สัมภาษณ์ "Newsmax" เมื่อคืนวันพุธ อ้างถึงอีเมลโต้ตอบกันของดร.แอนโธนี เฟาชี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อมือ 1 ของสหรัฐฯ กับดร.ฮิวจ์ ออคินคลอสส์ จำนวนกว่า 3,200 ฉบับ ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2563 ที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซท์ข่าว "Buzzfeed" และ " Washington Post" ว่า เป็นสิ่งพิสูจน์ว่า ดร.เฟาชี่รู้ว่า จีนกำลังทำงานวิจัยที่พยายามสร้างซูเปอร์ไวรัสขึ้นมา เพื่อศึกษาว่ามันจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างไรและจะปัองกันหรือรักษามันอย่างไร ก่อนจะเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งนอกจากจะไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลแล้วยังช่วยจีนปิดบังซ่อนเร้น
ดร.เฟาชี่ให้สัมภาษณ์หลายครั้งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาว่า เขายังคงเชื่อว่า ต้นกำเนิดของไวรัสมาจากการกระโดดข้ามสายพันธุ์ ไม่ใช่รั่วออกมาจากห้องแลบ สวนทางกับดร.หลี่ ที่ทำรายงาน 2 ฉบับเมื่อปีที่แล้ว และอีก 1 ฉบับในปีนี้ ที่ระบุว่า โควิด-19 ไม่ใช่เชื้อโรคที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นอาวุธชีวภาพที่ไร้ขีดจำกัด (Unrestricted Bioweapon)
เธอบอกว่า มันเป็นผลผลิตของโครงการอาวุธชีวภาพของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ซึ่งมีเครือข่าย ที่ไม่ใช่แค่นักวิทยาศาสตร์ของ CCP แต่ยังรวมถึงนักวิทยาศาสตร์และองค์กรในต่างประเทศด้วย
รายงานของดร.หลี่ ที่เผยแพร่ใน "Zenodo" เว็บไซท์ชุมชนวิจัยเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส ที่แม้ไม่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาเดียวกัน (peer review) แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะฉบับวันที่ 31 มีนาคม ที่ระบุว่า ไวรัส SARS-CoV-2 ถูกสร้างขึ้นจากไวรัสต้นแบบ ZC45 กับ ZXC21 ที่พบในค้างคาว โดยนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ซึ่งการดัดแปลงพันธุกรรมของไวรัส ทำให้แพร่สู่คน เพิ่มขีดความสามารถในการทำให้เกิดโรค, การแพร่เชื้อและการตายได้มากขึ้น
ดร.หลี่ ซึ่งหนีจากฮ่องกงไปอยู่สหรัฐฯ บอกว่า เธอใช้เว็บ Zenodo เพราะสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้ทันทีโดยไม่มีข้อจำกัด ด้านคณะนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ระบุว่า ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็จะเป็นหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างที่น่าเป็นห่วงว่า SARS-CoV-2 เป็นไวรัสที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ถ้าไม่มีการพิสูจน์อย่างเพียงพอ ก็ถือเป็นการหมิ่นประมาท เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และน่าสงสัยในเชิงจริยธรรม ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระบุว่า ฝ่ายบริหารของเขากำลังตรวจสอบ และหน่วยข่าวกรองอังกฤษ ได้ยกระดับความน่าจะเป็นจาก "ระยะไกล" เป็น "เป็นไปได้"