"ทีมข่าวข้นคนข่าว" ได้พูดคุยกับ คุณภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเทึ่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้รับคำอธิบายว่า ที่มาที่ไปของการเปิดแพลตฟอร์ม "ภูเก็ตต้องชนะ" มาจากการที่ภูเก็ตต้องการจัดหาวัคซีนเองเพื่อมาฉีดให้กับคนภูเก็ต โดยเฉพาะคนที่ทำงานในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถเปิดการท่องเที่ยวของจังหวัดได้โดยเร็วที่สุด จึงเปิดแพลตฟอร์มให้ลงทะเบียน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีแพลตฟอร์ม "หมอพร้อม"
เป้าหมายที่ให้ลงทะเบียน คือ คนภูเก็ตที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในภูเก็ต และคนที่ทำงานในภูเก็ตจริงๆ ถ้าไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ภูเก็ต แต่ทำงานอยู่จริง ก็ให้องค์กรที่เป็นนายจ้างส่งข้อมูลยืนยันมา ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว สามารถลงทะเบียนได้ทั้งหมด โดยยอดคนลงทะเบียนที่ผ่านมามากกว่า 120,000 ราย
ต่อมาเมื่อมีแพลตฟอร์ม "หมอพร้อม" ทางภาคเอกชนภูเก็ตที่ร่วมกันทำ "ภูเก็ตต้องชนะ" ก็ได้ปรึกษาไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่าจะให้ยกเลิกแพลตฟอร์ม "ภูเก็ตต้องชนะ" หรือไม่ เพื่อจะได้มีแพลตฟอร์มเดียว จะได้ง่ายต่อการจัดทำข้อมูล แต่ปรากฏว่าทางสาธารณสุขสนับสนุนให้มีแพลตฟอร์ม "ภูเก็ตต้องชนะ" ต่อไป และให้เพิ่มช่องทางให้ประชาชนทั่วไปที่อายุเกิน 60 ปี ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนด้วย
จากข้อตกลงนี้ ทำให้ทางภาคเอกชนของภูเก็ตขอให้ทางสาธารณสุขปิดระบบไม่ให้คนที่มีทะเบียนบ้านในภูเก็ตสามารถลงทะเบียน "หมอพร้อม" ได้ แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไร จึงไม่มีการปิดระบบในส่วนนี้ ทำให้มีการลงทะเบียนซ้ำซ้อน ทาง สสจ.ภูเก็ต จึงต้องประกาศให้คนภูเก็ตลงทะเบียนในแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น คือ "ภูเก็ตต้องชนะ" และใครที่ลงทะเบียน "หมอพร้อม" ไปแล้ว ก็ให้ยกเลิก จะได้ไม่สับสน เนื่องจากระบบที่ภาคเอกชนภูเก็ตกำลังดำเนินการ จะไม่ฉีดที่โรงพยาบาล เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่หมอและพยาบาลที่มีหน้าที่ต้องฉีดวัคซีนของรัฐบาลอยู่แล้ว รวมทั้งหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ตลอดจนผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ด้วย
ส่วนประเด็นที่ว่า ผู้ที่ลงทะเบียน "ภูเก็ตต้องชนะ" แล้ว จะได้ฉีดวัคซีนเมื่อไหร่ ได้ฉีดก่อนวัคซีนของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต บอกว่า ยังไม่สามารถบอกได้ ต้องรอการยืนยันว่าจะได้ฉีดเมื่อไหร่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะส่งมอบวัคซีนให้ภูเก็ต หรือเปิดให้เอกชนภูเก็ตจัดหาวัคซีนเอง