นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลสถิติของ The Global Cancer Observatory (Globocan 2018) ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่จัดเป็นอันดับที่ 16 ในเพศชาย และอันดับที่ 19 ในเพศหญิงของทวีปเอเชีย จากผลการวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าการใช้และการสัมผัสยาฆ่าแมลงบางชนิด เช่น สารกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma) มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น แต่ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าการบริโภคผักที่มีการใช้ยาฆ่าแมลงทำให้เกิดโรคมะเร็ง
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลผักกาดดูดน้ำแดงเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์แสดงการดูดซึมน้ำผ่านระบบท่อลำเลียงของพืชที่อาศัยผ่านแรงดันภายในท่อลำเลียงน้ำ แต่การใช้ยาฆ่าแมลงส่วนใหญ่มักเป็นการฉีดพ่นสารเคมีเคลือบบนผิวใบของต้นพืช เมื่อแมลงสัมผัสสารเคมีหรือกัดกินผักนั้นจะตายในที่สุด ทั้งนี้ก่อนบริโภคพืชผักควรแช่ผักด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู) ด่างทับทิม หรือน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ก่อนนำผักมาล้างด้วยน้ำสะอาดทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณสารเคมีจากยาฆ่าแมลงที่อาจตกค้างได้ อีกทั้งควรเลือกซื้อพืชผักจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือและได้รับมาตรฐานการเพาะปลูก